วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

หลักเกณฑ์การยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ สำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่เปิดสอนวิชาศาสนาควบคู่วิชาสามัญในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๒ เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

รมว.ศธ. กล่าวว่า ประกาศฉบับนี้ได้กำหนดให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่เปิดสอนวิชาศาสนาควบคู่วิชาสามัญในจังหวัดภาคใต้ มีสิทธิขอยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบสำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่เปิดสอนวิชาศาสนาควบคู่วิชาสามัญในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้าง ซ่อมแซมอาคารเรียนและอาคารประกอบ ที่ชำรุดหรือเสียหายเนื่องจากประสบภัย โดยอาคารเรียนที่จะก่อสร้าจะต้องเป็นอาคารที่ใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน ส่วนอาคารประกอบก็คือ อาคารที่ใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเสริมหลักสูตรกิจกรรมนักเรียน และภาคปฏิบัติที่เป็นประโยชน์แก่โรงเรียน เช่น อาคารปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ โรงฝึกงาน หอประชุม อาคารห้องสมุด เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจะต้องก่อสร้างอยู่ในที่ดินของโรงเรียน อีกทั้งยังสามารถจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนได้โดยปลอดดอกเบี้ย แต่จะต้องเป็นอุปกรณ์การเรียนการสอนที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแต่ละประเภทและแต่ละระดับการศึกษา นอกจากนี้ประกาศยังได้กำหนดให้มีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้นในงวดแรกของการชำระหนี้ โดยเริ่มนับตั้งแต่วันทำสัญญาจนถึงวันสุดท้ายของภาคเรียนถัดไป

รมว.ศธ.กล่าวถึงกรณีการพิจารณาคำขอยืมเงินนั้น คณะอนุกรรมการเงินยืมสำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่เปิดสอนวิชาศาสนาควบคู่วิชาสามัญในจังหวัดภาคใต้ จะพิจารณาตามยอดเงินที่มีอยู่ โดยวงเงินให้ยืมแต่ละโรงเรียนต้องไม่เกินราคาประเมินของหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน ซึ่งให้ใช้หลักทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น หนังสือค้ำประกันของงธนาคารพาณิชย์ พันธบัตรรัฐบาลไทยของผู้ยืมเงินหรือของบุคคลภายนอกที่ยินยอมค้ำประกัน ที่ดินของผู้ยืมเงินหรือของบุคคลภายนอกที่ยินยอมค้ำประกัน เป็นต้น ทั้งนี้ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ประเมินราคาหลักทรัพย์

ส่วนการชำระคืนเงินยืม กำหนดให้ผ่อนชำระ ๒ งวด คือ งวดวันที่ ๓๑ พฤษภาคม และงวดวันที่ ๓๐ พฤศจิกายนของทุกปี กรณีเงินยืมไม่เกิน ๑ ล้านบาท ให้ผ่อนชำระเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา ๑๐ ปี และเงินยืมตั้งแต่ ๑ ล้านบาทขึ้นไป ให้ผ่อนชำระเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา ๑๕ ปี แต่หากผู้ยืมเงินผิดนัดไม่ชำระเงินต้นงวดใดงวดหนึ่งให้ครบจำนวนภายในระยะเวลาที่กำหนด ต้องชำระค่าปรับเป็นจำนวนเงินในอัตรา ร้อยละ ๑๐ ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมดตั้งแต่วันที่ผิดนัดจนถึงวันที่ชำระหนี้ครบถ้วนเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ ห้ามไม่ให้นำที่ดินของมัสยิดหรืออาคารเรียน อาคารประกอบ ซึ่งตั้งอยู่ในที่ดินของมัสยิดมาเป็นหลักประกันเงินยืม.

ไม่มีความคิดเห็น: