วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ ๑๑/๒๕๕๒

รมว.ศธ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการบรรจุข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งได้มอบเป็นนโยบายให้ ก.ค.ศ.ดูแลเรื่องของระบบการสอบและกระบวนการสอบคัดเลือกทั้งหมด การได้มาซึ่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีอยู่ ๓ ทาง คือ ๑.สอบคัดเลือก ๒.เปิดโอกาสให้พนักงานราชการได้มีโอกาสบรรจุเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ชดเชยอัตราเกษียณอายุราชการในสัดส่วนร้อยละ ๒๕ และ ๓.โครงการครูพันธุ์ใหม่ที่จะเปิดโอกาสให้คนเก่ง คนดี เข้ามาเรียนครู และมีหลักประกันในการบรรจุเข้ารับราชการหลังจากจบการศึกษาตามเกณฑ์

ขณะนี้ได้มอบให้ไปทบทวนดูว่ากระบวนการที่มีอยู่ในปัจจุบันควรจะมีการปรับปรุงหรือไม่ เช่น เรื่องการสอบคัดเลือกในปัจจุบันนี้ในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาจะเป็นผู้ออกข้อสอบเอง ซึ่งจะมีหลายมาตรฐาน ดังนั้นควรจะมีการปรับปรุงเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งเรื่องของพนักงานราชการที่จะได้รับการบรรจุหรือคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการในสัดส่วนร้อยละ ๒๕ ว่าจะต้องมีการปรับปรุงหรือไม่รวมทั้งในส่วนอื่นๆ ด้วยทั้งระบบ เพื่อที่จะให้คนเก่ง คนดี เข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการครูได้ตามวัตถุประสงค์ ซึ่ง ก.ค.ศ. จะนำมาเสนอในการประชุมครั้งหน้า

รมว.ศธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาเรื่องการเลือกตั้งกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งได้กำหนดวันรับสมัครคือวันที่ ๒๓-๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ และวันเลือกตั้งคือวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๒ ทั้งนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ๑ ชุด คือ คณะกรรมการติดตาม ดูแล การสรรหา และการเลือกตั้ง ก.ค.ศ. และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาและ อ.ก.ค.ศ. ส่วนราชการ ซึ่งมี ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ เป็นประธาน เพื่อที่จะเข้าไปดูให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งได้ใช้มาตรการต่างๆ ควบคู่กันไปทั้งในเรื่องของการประชาสัมพันธ์และการรณรงค์ เพื่อเปิดช่องทางให้มีการร้องเรียนได้ถ้าพบว่ามีประเด็นใดที่ไม่ถูกต้อง โดยที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าหากมีปัญหาเกิดขึ้นก็ให้รีบรวบรวม พิจารณาได้ทันท่วงที

ขณะเดียวกันถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมของ ก.ค.ศ. ก็ให้รีบรวบรวมเสนอเพื่อจะได้ดำเนินตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งขณะกรรมการชุดนี้และ ก.ค.ศ. ก็จะใช้มาตรา ๙๓ ของพระราชบัญญัติครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นหลักในการกำกับดูแลการเลือกตั้งครั้งนี้ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม กล่าวคือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการทุจริตโดยการซื้อสิทธิ์หรือขายเสียงในการเลือกตั้งใด อันมีลักษณะเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งจะต้องไม่ให้การส่งเสริมสนับสนุนหรือชักจูงให้ผู้อื่นกระทำการในลักษณะเดียวกัน การดำเนินการที่ฝ่าฝืนหลักการดังกล่าวนี้ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

รมว.ศธ. กล่าวสรุปว่า การเลือกตั้งผู้แทนครูครั้งนี้ ครูจะได้ช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับองค์กรอื่นๆ ในฐานะที่ครูเป็นต้นแบบ รวมทั้งให้รับนโยบาย ๓ ดี/3D ไปด้วย.

ไม่มีความคิดเห็น: