วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ศธ.เตรียมทำคำของบปี’54 หลังได้รับจัดสรรกว่า 4.7 แสนล.

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหาร ศธ. เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 ซึ่งทุกกระทรวงจะต้องทำคำขอให้เสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเสนอขอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ต่อไป แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขทั้งหมดนี้อาจมีการปรับเพื่อความเหมาะสมอีกครั้งเพื่อให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาล โดยหน่วยงานต่างๆ ในสังกัด ศธ. ได้รับจัดสรรจำนวนทั้งสิ้น 469,211.63 ล้านบาท แยกเป็นงบรายจ่าย 464,881.99 ล้านบาทและงบกองทุนและเงินทุนหมุนเวียน 4,329.64 ล้านบาท ซึ่งการเสนอของบประมาณจะต้องปรับให้สอดคล้องตามนโยบายการพัฒนาการศึกษาของตน ใน 8 โครงการดังนี้

1.โครงการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ที่ประชุมเห็นว่าควรให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดทำโครงการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาฯ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมทั้งเน้นการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อน 2.โครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ให้ดำเนินการต่อเนื่องตามที่ได้วางแผนจัดทำคำของบประมาณไว้เรียบร้อยแล้วจำนวน 73,000 ล้านบาท 3.โครงการจัดตั้งโรงเรียนดีประจำตำบล ได้ของบประมาณไปแล้วจำนวน 1,300 ล้านบาท แต่คงไม่พอ จึงต้องจัดทำคำของบประมาณเพิ่มอีก โดยอาจขอเพิ่มเติมจากงบโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งระยะที่ 3 หรือ SP3

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า 4.โครงการพัฒนาการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขณะนี้บางหน่วยงานได้ตั้งงบประมาณดำเนินการไว้แล้ว เช่น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จำนวน 664 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวนประมาณ 200 ล้านบาท นอกจากนี้ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะ จำเป็นจะต้องของบฯ เพิ่มเพื่อพัฒนาทางด้านกายภาพของสถาบันศึกษาปอเนาะซึ่งเดิมตั้งงบฯ ไว้เพียง 15 ล้านบาท 5.โครงการสร้างแหล่งเรียนรู้ราคาถูกสำหรับประชาชน : กศน.ตำบล โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ

นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า 6.โครงการ Teacher Channel และ Tutor Channel เป็นโครงการที่ไม่มีปัญหาใดๆ เพราะได้วางแผนดำเนินการต่อเนื่องไว้แล้ว 7.โครงการเครือข่ายพัฒนาชีวิตครู จะต้องมีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาครูฯ ตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฯ โดยจะต้องจัดทำคำของบประมาณไว้ประมาณ 500 ล้านบาท และ 8.โครงการสนับสนุนสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพื่อให้สนองตอบต่อการแก้ปัญหาการขาดแคลนครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ โดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ร่วมกับโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) จะต้องไปคิดยุทธศาสตร์การดำเนินการ รวมทั้งจัดทำคำของบประมาณ

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ก.พ.53

ไม่มีความคิดเห็น: