วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

รางวัลสถานศึกษาพอเพียง ปี ๒๕๕๒


นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบเกียรติบัตรแก่สถานศึกษา ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากศูนย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ศธ. ร่วมกับโครงการวิจัยเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้เป็นสถานศึกษาพอเพียง ประจำปี ๒๕๕๒ จำนวน ๑,๑๒๖ แห่ง และมอบโล่แก่องค์กรเครือข่ายที่ให้การส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ๒๗ แห่ง เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๓ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

รมว.ศธ.กล่าวว่า ศธ.มีความพยายามอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ ให้นักเรียน นักศึกษา มีการใช้วิถีชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งถือเป็นเป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง อีกประการหนึ่งที่ ศธ.จำเป็นต้องพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นพลเมืองยุคใหม่ และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นหัวใจสำคัญที่สังคมไทยจะต้องได้รับการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง

โดยสถานศึกษาจะเป็นต้นแบบที่สำคัญในการนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปดำเนินการจัดหลักสูตร และกิจกรรมเสริมในการเรียนรู้ให้กับนักเรียน รวมทั้งการเรียนการสอนในสถานศึกษา ก็จะมีผลโดยตรงต่อการขยายผลต่อไป ทั้งในฐานะผู้เรียนที่ต้องเจริญเติบโตเป็นพลเมือง และในฐานะโรงเรียนที่เป็นฐานสำคัญของชุมชนในการนำเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้และขยายผลในชุมชนด้วย การจัดงานในครั้งนี้ เป็นความก้าวหน้าของสถานศึกษาที่ได้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้จนประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ การขยายผลสู่ชุมชนอย่างแท้จริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ช่วยกันพัฒนาการดำเนินงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้มีความยั่งยืนต่อไป

กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายการพัฒนาสถานศึกษาให้สามารถน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของนักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรทางการศึกษา โดยในปี ๒๕๕๒ ได้กำหนดเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้สถานศึกษาเป็นแบบอย่างในการจัดกระบวนการเรียนการสอนและการบริหารตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน ๘๐๐ โรงเรียนทั่วประเทศ

ซึ่งมีสถานศึกษาที่ผ่านการประเมินให้เป็นสถานศึกษาพอเพียง จำนวน ๑,๑๒๖ แห่ง ประกอบด้วยสถานศึกษาสังกัดต่างๆ ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๘๘๗ แห่ง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ๗๘ แห่ง สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ๘๓ แห่ง สำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ๒๘ แห่ง กรุงเทพมหานคร ๑๔ แห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒๖ แห่ง และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ๑๐ แห่ง.

ไม่มีความคิดเห็น: