วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) รอบพิเศษ

รมว.ศธ.กล่าวว่า นักเรียนที่มีความประสงค์จะเข้าสอบ O-Net เพิ่มเติมในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖, มัธยมศึกษาปีที่ ๓ และมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ มีนาคม ๒๕๕๓ มีจำนวนไม่มาก ซึ่งทางสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ยืนยันที่จะให้สิทธิ์กับนักเรียนเหล่านี้เข้าสอบเพิ่มเติมตามกำหนด จากตัวเลขเบื้องต้นที่ได้รับรายงานจากนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีนักเรียนมาขอใช้สิทธิ์ในการสอบในแต่ละหน่วยสอบไม่มาก กล่าวคือ ในกรุงเทพมหานครประมาณ จำนวน ๑๐๐ คน ในต่างจังหวัดมีจำนวนไม่ถึง ๑๐๐ คน เป็นการให้สิทธิ์แก่นักเรียนสอบเพิ่มเติม ในกรณีที่นักเรียนติดภารกิจ เจ็บป่วย ในช่วงที่ผ่านมา

การเลื่อนรับสมัครและการสอบเข้ามัธยมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ จากผลกระทบของการชุมนุม กระทรวงศึกษาธิการได้สั่งเลื่อนการรับสมัครและการสอบไปแล้ว เพื่อคำนึงถึงความสะดวก ความปลอดภัยของนักเรียน ผู้ปกครอง และครู โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนดังๆ เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ตามตัวเลขที่มีการประเมินมีผู้เข้าสอบในแต่ละปี จำนวนประมาณ ๑๕,๐๐๐ - ๒๐,๐๐๐ คน ดังนั้นหากนับผู้ปกครองด้วยก็อาจจะเป็นสองเท่า เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ได้มีการเลื่อนสมัครและสอบออกไปใน ๘ จังหวัด ที่เป็นเขตพื้นที่ประกาศพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้มีแผนที่จะทำความเข้าใจกับนักเรียนทั้งหมด หลังจากวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๓ โดยจะมีประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับการสอบที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และขอให้ผู้ปกครองมีความมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการมอบตัวของนักเรียนในปีการศึกษา ๒๕๕๓ เนื่องจากจะมีการมอบตัวในวันเดียวกัน

รมว.ศธ.ได้กล่าวถึง กรณีการสอบถามไปยังสายด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (๑๕๗๙) ซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็เข้าใจแล้ว แต่ยังเป็นห่วงเรื่องประกาศปฏิทินในการสมัครและสอบว่าจะเป็นในช่วงวันใด สำหรับการมอบตัวที่จะมีขึ้นในวันเดียวกันทั่วประเทศ ก็จะไม่มีผลได้ผลเสียของนักเรียนในต่างจังหวัดที่มีการสอบไปแล้ว

ส่วนเรื่องการเรียนการสอนก็จะไม่มีผลกระทบ เพราะเป็นช่วงปิดภาคเรียน จะมีบ้างในส่วนที่นักเรียนจะต้องสอบ Admissions บางมหาวิทยาลัยก็อาจจะมีการรายงานตัว จึงขอให้แต่ละสถานศึกษาใช้ดุลยพินิจว่า มีผลกระทบมากน้อยเพียงใด หากมีการชุมนุมยืดเยื้อ หรือมีการชุมนุมที่จะนำไปสู่ความรุนแรง สถานศึกษาก็สามารถสั่งปิดสถานศึกษาได้และรายงานให้กระทรวงศึกษาธิการทราบ อย่างไรก็ตามในช่วง ๔-๕ วันที่ผ่านมาก็ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้สังคมไทยได้ผ่านบทเรียนว่า ในการสร้างสังคมประชาธิปไตยนั้นการชุมนุมโดยสงบและเปิดเผยนั้นสามารถที่จะทำได้ แต่ต้องไม่ไปลิดรอนสิทธิ์ของคนอื่นและต้องไม่ไปสร้างความรุนแรง

ในส่วนของผู้ที่ชุมนุมใกล้บริเวณกระทรวงศึกษาธิการนั้น ได้มอบนโยบายชัดเจนว่า จะต้องให้ความสะดวกกับผู้ชุมนุมด้วย ในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยของข้าราชการที่มาปฏิบัติงานด้วย ได้รับรายงานจากผู้นำองค์กรหลักว่า ข้าราชการสามารถเข้าไปปฏิบัติงานได้ตามปกติ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชน และการดำเนินการเกี่ยวกับลูกหลานของผู้ชุมนุมและผู้ไม่ชุมนุม ฉะนั้นจึงได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทั้งสองฝ่ายนับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม

ไม่มีความคิดเห็น: