วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

งานวันรักการอ่าน



นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานวันรักการอ่าน ๒ เมษายน ๒๕๕๓ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
รมว.ศธ.กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการส่งเสริมการอ่าน และให้ความสำคัญกับการอ่านในฐานะวาระแห่งชาติ ซึ่งพี่น้องประชาชนชาวไทยจะต้องให้ความสำคัญด้วย เพราะการอ่านเป็นวิธีการพื้นฐานในการแสวงหาความรู้ ไม่ว่าจะอ่านจากหนังสือ หรือสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าพวกเราจะให้ความสำคัญต่อการอ่านอย่างไรก็ตาม ก็ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบ ๓ ประการ ดังนี้

· ประชาชนชาวไทยต้องมีทัศนคติที่ดี มีจิตสำนึกของการใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความพึงพอใจ มีนิสัยที่จะค้นคว้าความรู้ โดยให้การอ่านเป็นวิธีการแสวงหาความรู้ ไม่ใช่เพียงแต่การรับข่าวสารข้อมูล ด้วยการฟัง พูด และด่วนสรุปแต่ส่วนเดียว หากต้องให้การอ่านเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแสวงหาข้อมูล และความรู้ นอกจากนั้น ยังจำเป็นจะต้องส่งเสริมความรู้หนังสือให้เข้มแข็งมากขึ้น เช่นเดียวกับการปฏิรูปการเรียนการสอนเพื่อฝึกให้นักเรียน นักศึกษา มีทักษะการอ่านที่สูงขึ้น

· มีหนังสือที่ดี มีคุณค่า มีประโยชน์ จำนวนมากพอสำหรับประชาชน กลไกการตลาดต้องเอื้อต่อการที่ประชาชนจะหาซื้อหนังสือดี มีคุณภาพ ได้อย่างสะดวก ในราคาที่สมเหตุสมผล ในขณะเดียวกัน ต้องมีระบบกระจายหนังสือไปสู่ประชาชนทุกครัวเรือน การมีอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้หนังสือดี มีคุณภาพ เข้าถึงประชาชนได้อีกทางหนึ่ง

· การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม ที่ต้องถือว่าการอ่านเป็นภาระรับผิดชอบร่วมกัน ต้องจัดโอกาสและจัดสภาพแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการอ่านด้วย
รมว.ศธ.กล่าวถึงกรณีเด็กไทยส่วนใหญ่อ่านหนังสือไม่ออกว่า เป็นประเด็นที่ ศธ.ต้องมุ่งเน้นการรักการอ่าน โดยเฉพาะการส่งเสริมกระบวนการเรียนการสอนให้ใช้การอ่านเป็นกิจกรรมหลัก ซึ่งในการปรับปรุงหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนการสอนใหม่ของ ศธ.จะเน้นการเรียนกลุ่มสาระหลัก ๗๐% ส่วนที่เหลือจะเน้นสร้างนิสัยใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ให้กับสังคม เพื่อเป็นต้นแบบให้นักเรียนสนใจการอ่านมากขึ้น

ขณะนี้ ศธ.จะเร่งดำเนินการ โดยในส่วนของ สพฐ.มีกิจกรรมรักการอ่าน กศน.ก็มีห้องสมุดดี ซึ่ง ศธ.จะสร้างตอบให้ได้ว่า เมื่อได้อ่านแล้ว ผู้อ่านได้ประโยชน์อย่างไร และนอกจาก ศธ.จะดำเนินการรักการอ่านใน ๕ องค์กรหลักแล้ว ยังได้มีการขับเคลื่อนให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชน ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ คือ การสร้างเครือข่ายรักการอ่าน มีอาสาสมัครรักการอ่านในทุกตำบล
โดยในเดือนพฤษภาคมจะเปิดตัวโครงการนำร่องใน ๕ จังหวัด มีกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่าน อาสาสมัครทำหน้าที่หมุนเวียนหนังสือ ซึ่ง กศน.จะเป็นเจ้าภาพหลัก เพราะมีแหล่งเรียนรู้ราคาถูกและศูนย์เรียนรู้เพื่อแบ่งปัน ทั้งในเรื่องของการอ่านและการเรียนรู้อื่นๆ ด้วย โดยคณะกรรมการส่งเสริมการอ่าน ได้กำหนดแผนดำเนินการ ๕ แผนหลัก ซึ่งขณะนี้ต้องดำเนินการแผนที่ ๑ การวิจัยและส่งเสริมการรักการอ่าน เพื่อให้ได้หนังสือดีที่เหมาะสมกับการอ่านแต่ละวัย.

ไม่มีความคิดเห็น: