วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

ขออนุมัติขยายระยะเวลา SP2

ครม.ได้มีมติขยายเวลาการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดังนี้

๑. กศน. จำนวน ๘๓๘,๘๐๓,๒๗๒ บาท ได้ให้ขยายเวลาการดำเนินการไปจนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ประกอบด้วยแผนงานยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ทั้งระบบให้ทันสมัย สาขาการศึกษา โครงการปัจจัยสนับสนุนการศึกษา (โครงการยกระดับคุณภาพการศึกษาตามอัธยาศัย) และแผนงานการลงทุนเพื่อการยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิต ในระดับชุมชนและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สาขาการลงทุนในระดับชุมชน (โครงการพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้)

๒. สพฐ. จำนวน ๗,๑๒๗,๐๐๔,๗๓๔ บาท ได้ให้ขยายเวลาการดำเนินการไปจนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ประกอบด้วย ๗ โครงการ คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานศึกษาที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน, โครงการลงทุนด้านการศึกษาและการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์, โครงการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนสู่มาตรฐานสากล, โครงการพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค (Education Hub), โครงการพัฒนาครูทั้งระบบ, โครงการปัจจัยสนับสนุนด้านการศึกษา (จัดหาระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อการศึกษา) และโครงการพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยโครงการพัฒนาครูทั้งระบบของ สพฐ. ได้ขอปรับโอนวงเงินโครงการจำนวน ๑,๗๑๗.๓๖๓ ล้านบาท ไปใช้ดำเนินการโครงการ "พัฒนาคุณภาพโรงเรียนสู่มาตรฐาน" ในวงเงินเดิม และได้ให้ขยายเวลาไปจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ เนื่องจากโครงการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนสู่มาตรฐานเป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาลที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะช่วยพัฒนาโรงเรียนดีประจำตำบล เพื่อพัฒนาโรงเรียนในท้องถิ่นชนบทให้มีความพร้อมและเข้มแข็งทั้งด้านวิชาการ ด้านการอาชีพ พัฒนาสุขอนามัย และสามารถให้บริการแก่นักเรียนอย่างมีคุณภาพ โดยยังคงวัตถุประสงค์เดิมในการยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ทั้งระบบให้ทันสมัย และได้ขอให้ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสนับสนุนการดำเนินโครงการพัฒนาโรงเรียนดีประจำตำบล

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นั้น ครม.ได้มีมติให้ขยายเวลาในการจัดสรรงบประมาณเป็น ๒ ส่วน คือ ๑) โครงการยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษาที่ได้ดำเนินการเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว จำนวน ๒,๕๖๐,๕๐๑,๕๓๓ บาท ๒) โครงการยกระดับคุณภาพการศึกษา และ Education Hub จำนวน ๑,๖๙๗,๓๑๙,๕๖๗ บาท โดยให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ นอกจากนี้โครงการที่ไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ได้ทันเวลา และยังไม่ได้กำหนดคุณลักษณะของครุภัณฑ์ จำนวน ๑,๓๔๑,๕๖๔,๔๐๐ บาท ครม. มีมติให้ตัดงบประมาณส่วนนี้ โดย ศธ.สามารถของบประมาณในส่วนที่มีความพร้อม และให้ดำเนินการพร้อมกับการจัดสรรงบประมาณงวดใหม่ที่ได้จากการรวบรวมงบประมาณจากส่วนที่คงเหลือของส่วนราชการต่างๆ

--------------------------------------------------------------------------------

เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวครูโรงเรียนเอกชน

ครม.ได้เห็นชอบในหลักการเรื่องเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของครูโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาและอาชีวศึกษา เพื่อช่วยเหลือครูโรงเรียนเอกชน จำนวน ๘๙,๘๑๖ คนที่ได้รับเงินเดือนไม่ถึง ๑๑,๗๐๐ บาท ให้ได้รับเงินค่าครองชีพชั่วคราวเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท และเมื่อรวมกับเงินเดือนแล้วต้องไม่เกิน ๑๑,๗๐๐ บาท ซึ่ง ครม.อนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๕๓ งบกลาง และให้มีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ๒๕๕๓ ส่วนงบประมาณในปีต่อไปให้จัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี นอกจากนี้ ครม.ยังมีความเห็นเพิ่มเติมว่า การจัดสรรงบประมาณเป็นเงินเพิ่มค่าครองชีพให้กับครูในโรงเรียนเอกชน จะต้องให้สถานศึกษามีส่วนรับผิดชอบด้วย โดยจะให้มีการแบ่งสัดส่วนการจัดสรรงบประมาณระหว่าง ศธ.กับสถานศึกษา ซึ่งจะเป็นจำนวนเท่าไรนั้น จะต้องตกลงกันในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ครูโรงเรียนเอกชนที่มีรายได้ต่ำกว่า ๑๑,๗๐๐ บาท ถือว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ ดังนั้นการให้ความช่วยเหลือ จึงนับว่าเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครู รวมทั้งช่วยให้คุณภาพการศึกษาในโรงเรียนเอกชนดีขึ้นด้วย.

ไม่มีความคิดเห็น: