รมว.ศธ.เปิดเผยว่าสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้รายงานความก้าวหน้า เรื่องการพัฒนาการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมือง ซึ่งได้มอบเป็นนโยบายให้ไปดำเนินการในการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อที่จะดำเนินการกำหนดยุทธศาสตร์ และขับเคลื่อนการใช้การศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังและพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย สกศ. ได้รายงานความคืบหน้าว่าในขณะนี้ได้กำหนดยุทธศาสตร์ ๖ ด้าน ดังนี้
1. การปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจ ความเป็นพลเมือง ให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน รวมทั้งผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และนักการเมือง
2. ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรความเป็นพลเมืองจากภาคทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติ และนำไปสู่ความเชื่อมโยงกับการบูรณาการที่จะปรับปรุงหลักสูตร กิจกรรมการเรียนการสอน โดยเฉพาะเน้นการปฏิบัติจริงให้เกิดขึ้น
3. ส่งเสริมสถาบันการศึกษาทุกระดับ ให้มีบทบาทในการเตรียมคนรุ่นใหม่ ให้เป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
4. คัดเลือก และยกย่องบุคคลให้เป็นต้นแบบพลเมืองที่พึงประสงค์ เพื่อจะเป็นแบบอย่างของนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนในอนาคต
5. สร้างเครือข่ายในการขยายผลที่จะใช้การศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองให้เกิดขึ้นกับการศึกษาทุกระดับ คือ ระดับปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา การศึกษานอกโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัย อาชีวศึกษา จนถึงอุดมศึกษา ซึ่งจะต้องมีจุดเน้นที่แตกต่างกัน และให้เกิดคุณสมบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ ในการที่จะสร้างความเป็นพลเมืองที่ดีในอนาคต
6. ระดมทรัพยากรจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม โดยให้ สกศ. ไปดำเนินการรวบรวมกิจกรรมหรือโครงการของแต่ละองค์กร ตลอดถึงบูรณาการงบประมาณที่มีอยู่เพื่อนำมาขับเคลื่อนในการพัฒนาการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงต่อไป รวมถึงการจัดตั้งงบประมาณให้ทันในปีการศึกษา ๒๕๕๓
รมว.ศธ.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานเรื่องโครงการเรียนดี เรียนฟรี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ ในเรื่องความคืบหน้าของการผลิตหนังสือเรียน ซึ่ง สพฐ. ยืนยันว่าได้มีการผลิตหนังสือตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี ๒๕๔๔ ที่ใช้ในชั้น ป.๒, ป.๓, ป.๕, ป.๖ และ ม.๒, ม.๓, ม.๕, ม.๖ โดยผลิต ๘ กลุ่มสาระ รวมภาษาจีนอีก ๑ สาระ ดำเนินการเสร็จแล้วร้อยละ ๙๓ สำหรับการผลิตหนังสือตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี ๒๕๕๑ ซึ่งเริ่มใช้ในปีการศึกษา ๒๕๕๓ ในชั้น ป.๑, ป.๔, ม.๑, ม.๔ โดยผลิต ๘ กลุ่มสาระ รวมภาษาจีนอีก ๑ สาระ ดำเนินการเสร็จแล้วร้อยละ ๙๒
โดยจำนวนหนังสือทั้งหมดนั้นผลิตโดยโรงพิมพ์องค์การค้า สกสค.จำนวน ๒๖ ล้านเล่ม และผลิตโดยสำนักพิมพ์เอกชนจำนวน ๑๙ ล้านเล่ม ซึ่งคาดว่าในส่วนที่เหลือจะสามารถจัดส่งได้ครบภายในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ซึ่ง รมว.ศธ.ได้กำชับให้ สพฐ.ไปตรวจสอบการดำเนินการของสถานศึกษา ในการรับหนังสือเรียนจากร้านค้าตัวแทนที่ได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างไว้ และรายงานให้กระทรวงศึกษาธิการทราบทุกวันจันทร์ ภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ เพื่อจะได้ติดตามกระบวนการในการส่งมอบหนังสือเรียนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้
รมว.ศธ.ยังได้มอบให้ สพฐ.ไปเตรียมการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเชิญชวน การสละสิทธิ์ หรือบริจาคสิทธิ์โครงการเรียนฟรี เพื่อจะไปจัดสรรให้กับโรงเรียนขนาดเล็กที่ด้อยโอกาส ซึ่งภายในต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๓ จะได้ตัวเลขที่ชัดเจน นอกจากนี้ได้เน้นย้ำให้องค์กรหลักที่มีส่วนในการนำงบประมาณจำนวน ๗๘,๐๐๐ ล้านบาท เกี่ยวกับโครงการเรียนฟรี เรียนดี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ ไปติดตามขับเคลื่อนในส่วนที่เป็น ๕ ฟรีทั้งหมดให้เกิดประสิทธิภาพและให้นักเรียนได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน หนังสือเรียน เครื่องแบบนักเรียน คนพิการเรียนฟรี และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทั้งหมดนี้จะมีการติดตาม ตรวจสอบ เพื่อให้การดำเนินตามโครงการนี้เกิดประสิทธิภาพต่อไป.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
-
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำตราสัญลักษณ์(ภาพเครื่องหมายราชการ)ขึ้นใหม่ และได้แจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะร...
-
1. เงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ จัดอยู่ในงบประมาณหมวดใด ก. งบบุคลากร ข. งบดำเนินการ ค. งบเงินอุดหนุน ง. งบอื่นๆ 2. ค่าตอบแทน หมายถึง ก. เงินที่จ...
-
1. MIS = Management Information System = ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ 2. CPU = Central Processer Unit = หน่วยประมวลผลกลาง 3. Data = ข้อมูล 4....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น