วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

รมว.ศธ.มอบนโยบายเรียนฟรี เรียนดี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ

รมว.ศธ.กล่าวว่า จากการรายงานผลการดำเนินโครงการเรียนฟรี เรียนดี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ โรงเรียนได้ดำเนินการตามกระบวนการที่ ศธ.มอบหมายเรียบร้อยแล้ว และโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโครงการเรียนฟรีของ ศธ.ในปีแรก พบว่ามีการร้องเรียนเรื่องโครงการเรียนฟรี ไม่ฟรีจริง และมีการได้รับหนังสือเรียนล่าช้า ในปีที่ ๒ ศธ.จึงได้พยายามปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการเรียนฟรีที่มีความชัดเจนมากขึ้น มีการเตรียมแผนปฏิบัติการเป็นขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครองได้ดียิ่งขึ้น สำหรับการสละสิทธิ์ในปีนี้ รมว.ศธ.ขอเชิญชวนนักเรียนที่มีความพร้อมและมีความยินดีที่จะสละสิทธิ์ เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือโรงเรียนที่ด้อยโอกาสในชนบท ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาคุณภาพของโรงเรียนในชนบท และการเพิ่มโอกาสให้เด็กด้อยโอกาสให้สูงขึ้น โดยกระบวนการของการสละสิทธิ์ สพฐ.ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว

รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า การดำเนินโครงการเรียนฟรีจะเป็นปัจจัยให้นักเรียนเรียนได้อย่างมีคุณภาพเพิ่มขึ้น และครูสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ ศธ.มีโครงการจะพัฒนาคุณภาพครู โดยจะพัฒนาครูทั้งระบบ ประเมินครู อบรมครู และพัฒนาครูในสาขาที่ขาดแคลนมากขึ้น รวมทั้งการให้ขวัญกำลังใจครู สำหรับนักเรียน ศธ.จะมีการปรับปรุงหลักสูตรและการประเมินผล เพื่อให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนที่แท้จริง ให้นักเรียนได้เรียนในกลุ่มสาระวิชาพื้นฐาน ร้อยละ ๗๐ และเรียนในวิชาที่สนใจและร่วมกิจกรรมกับชุมชน อีกร้อยละ ๓๐ เพื่อฝึกให้นักเรียนมีจิตสาธารณะและมีความรับผิดชอบที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง

รมว.ศธ.เปิดเผยต่อสื่อมวลชนเรื่องการจัดสรรงบประมาณโครงการเรียนฟรีให้กับนักเรียนและผู้ปกครองว่า โรงเรียนต้องดำเนินการตามปฏิทินที่ ศธ.มอบหมายไว้ คือ หลังจากได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว โรงเรียนต้องประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง หลังจากนั้น ในช่วงปลายเดือนมีนาคม-เมษายน ก็ส่งมอบเงินให้กับผู้ปกครองเพื่อซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า โรงเรียนใดไม่ได้รับเงิน แต่อาจจะมีบางโรงเรียนที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ทำให้ผู้ปกครองต้องไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนก่อน จากนั้นจึงนำใบเสร็จมารับเงินภายหลัง อย่างไรก็ตาม ขอติดตามรายงานผลจาก สพฐ.ก่อน ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการมอบเงินให้ผู้ปกครองเพื่อซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน จะสามารถดำเนินการให้เสร็จก่อนเปิดภาคเรียนได้อย่างแน่นอน

รมว.ศธ.กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดภาคเรียนของโรงเรียนใกล้พื้นที่ชุมนุมว่า ขณะนี้มี โรงเรียนที่จะเปิดเรียนตามปกติ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ จำนวน ๓๑ โรงเรียน โดยจำนวนนี้มี ๙ โรงเรียนที่เปิดเรียนแล้ว และโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวน ๘ โรงเรียน อาจจะเลื่อนการเปิดภาคเรียนหรือย้ายไปเรียนในโรงเรียนคู่ขนาน สำหรับโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ได้ประกาศเลื่อนการเปิดเรียนเป็นวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓ แล้ว รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓ จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่ง ศธ.ได้เตรียมมมาตรการรองรับไว้แตกต่างกัน โดยโรงเรียนที่เปิดตามปกติ โรงเรียนได้ขอความร่วมมือจาก ศธ.ในเรื่องการประสานกับการขนส่งมวลชน เช่น รถประจำทาง รถไฟฟ้า เพื่อกำหนดจุดในการรับส่งที่ชัดเจน ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลในช่วงเข้าเรียนตอนเช้า-เลิกเรียนตอนบ่าย ซึ่งบางโรงเรียนได้มีการเปลี่ยนเวลาในการเข้าเรียนและเลิกเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ปกครอง เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้ขยายเวลาเข้าเรียนตอนเช้า เป็นเวลา ๐๘.๓๐ น. และเลิกเรียนเวลา ๑๔.๓๐ น. จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครองอีกครั้ง เพื่อให้ร่วมกันติดตามสถานการณ์ โดย ศธ. ได้มีศูนย์เสมารักษ์และหมายเลขโทรศัพท์ด่วน ๑๕๗๙ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองรับทราบสถานการณ์อีกทางหนึ่งด้วย.

ไม่มีความคิดเห็น: