วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ผลประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ศธ.

รมว.ศธ.กล่าวว่า ผลการประชุมองค์กรหลักมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

• การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเพื่อเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ ซึ่ง สพฐ.ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน ๖๙ เขต ดำเนินการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเพื่อเข้ารับราชการ โดยได้มีหนังสือเพื่อ ผ่อนผันให้ผู้สมัครที่ได้ใบรับรองสิทธิก่อนที่จะได้รับใบประกอบวิชาชีพครู สามารถสมัครสอบได้ ทำให้ผู้สมัครจำนวนหนึ่งที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และได้สมัครสอบครั้งนี้ด้วย อาจเกิดความเข้าใจผิดเรื่องหลักเกณฑ์ว่า เมื่อสอบได้แล้วจะได้รับการบรรจุ ซึ่งไม่เป็นไปตามคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งที่จะบรรจุแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วยได้ คือ ต้องมี ใบประกอบวิชาชีพครูก่อน

จึงได้มอบหมายให้ สพฐ. คุรุสภา และ ก.ค.ศ. ดำเนินการสรุปหลักเกณฑ์เพื่อซักซ้อมความเข้าใจไปยัง สพท.ทั้ง ๖๙ เขต ในการชี้แจงให้ผู้สมัครสอบได้ทราบโดยทั่วกัน และจากข้อสังเกตของสมาคมโรงเรียนเอกชน เรื่องการสอบแข่งขันที่ดำเนินการในช่วงเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ ซึ่งส่งผลกระทบต่อครูโรงเรียนเอกชนที่สอบบรรจุได้ ทำให้ ตำแหน่งของครูโรงเรียนเอกชนขาดแคลน และไม่สามารถสรรหา/บรรจุทดแทนได้ทัน ที่ประชุมจึงเห็นควร ให้รับข้อสังเกตนี้ เพื่อให้การสอบบรรจุครั้งต่อไป ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียน คือ ภายในเดือนเมษายนของทุกปี

• โรงเรียนดีประจำตำบล สพฐ.รายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้คัดเลือกโรงเรียนดีประจำตำบลไว้แล้ว จำนวน ๑๘๒ โรงเรียน และมีการดำเนินการตามนโยบาย ๕ ขั้นตอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมการ โดย สพฐ.ได้เชิญผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนดีประจำตำบลมาประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) เพื่อเตรียมทำแผนรองรับการพัฒนา รวมทั้งประเมินความต้องการ/ความจำเป็น กำหนดภาพความสำเร็จ และดำเนินงานเพื่อพัฒนาตามแผนอย่างยั่งยืน

ซึ่ง รมว.ศธ.ได้ให้ข้อสังเกตในการคัดเลือกโรงเรียน เพื่อให้ได้โรงเรียนที่มาจากความร่วมมือของชุมชน มีการทำประชาคมในชุมชน มี MOU ระหว่างโรงเรียนกับ อบต. ที่มีจุดเน้น คือ อบต.ต้องเข้ามามีส่วนร่วม อย่างน้อยที่สุดในการรับส่งนักเรียนไป-กลับ หาก อบต.ใดมีความพร้อมที่จะทำ MOU ในด้านอื่นๆ ศธ.ก็ยินดี

นอกจากนี้ การจัดสรรงบประมาณก็ควรดำเนินการให้ทันต่อกรอบเวลา ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติงบประมาณไว้แล้ว จำนวน ๑,๗๑๗ ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้กับโรงเรียนต่างๆ โดยพิจารณาจากความต้องการและต้นทุนของแต่ละโรงเรียน การพัฒนาโรงเรียนดีประจำตำบล จะต้องระดมสรรพกำลัง ทรัพยากรทุกด้าน เพื่อร่วมมือกันทำงานอย่างแท้จริง โดยจะไม่เน้นปริมาณ แต่จะเน้นในเชิงคุณภาพ สนองตอบต่อการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองและการกระจายอำนาจสู่สถานศึกษาอย่างแท้จริง นอกจากนั้น ยังเป็นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียนขนาดเล็กให้สูงขึ้นด้วย

• ความคืบหน้าโครงการเรียนฟรี เรียนดี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ สพฐ.ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณไปสู่สถานศึกษาเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปจะต้องเร่งรัดให้มีการจัดพิมพ์หนังสือเรียนให้ทันต่อเวลา โดย สพฐ.จะจัดกิจกรรมปล่อยคาราวานหนังสือเรียนไปยังโรงเรียน ทั่วประเทศ ในวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๑.๐๐ น. ที่โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว องค์การค้าของ สกสค. สำหรับการแจกหนังสือเรียน ที่ประชุมยืนยันการแจกหนังสือเรียนฟรีให้กับนักเรียน ชั้น ม.๔-ม.๖ และ ปวช. ทุกชั้นเรียน ซึ่ง สพฐ.ได้เตรียมการงบประมาณในส่วนนี้ไว้แล้ว จำนวนกว่า ๔๐๐ ล้านบาท และในปี ๒๕๕๔ ก็จะได้ดำเนินการจัดตั้งงบประมาณไว้ โดยนักเรียน ชั้น ป.๑-ม.๓ จะเป็นการให้ยืมเรียนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: