วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การจัดตั้งกองทุนครูของแผ่นดิน

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดกิจกรรมระดมทุนรับบริจาคเพื่อเป็นทุนประเดิมการจัดตั้งกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งจะขอพระราชทานชื่อเป็น "กองทุนครูของแผ่นดิน" โดยสามารถนำเงินที่บริจาคหักเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีเงินได้เป็นจำนวน ๒ เท่าของรายจ่าย แต่ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของกำไรสุทธิหรือเงินได้สุทธิ

รมว.ศธ.กล่าวว่า ครม.พิจารณาเรื่องการขอพระราชทานชื่อกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา และการขอลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับเงินบริจาค ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแล้ว มีมติดังนี้

รับทราบและเห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการจัดกิจกรรมระดมทุนรับบริจาคเพื่อเป็นทุนประเดิมการจัดตั้งกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา โดยมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์กรต่าง ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุน เผยแพร่ รณรงค์ประชาสัมพันธ์การดำเนินงาน รวมทั้งการระดมทุนเพื่อสมทบทุนกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ทั้งนี้เงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการระดมทุน กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานของรัฐต้องถือปฏิบัติตามข้อ ๒๐ (๑) – (๕) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เห็นชอบในหลักการการขอพระราชทานชื่อ "กองทุนครูของแผ่นดิน" สำหรับกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับทุนประเดิมที่มีผู้บริจาค โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๑ (เรื่อง การขอพระราชทานนามอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสถานที่ และการก่อสร้างอาคารของทางราชการ) โดยอนุโลมตามความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

การพิจารณาเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ให้แก่ผู้ที่บริจาคเงินสมทบกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทาง การศึกษา นั้น ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ พ.ศ.๒๕๓๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ให้ผู้บริจาคเงินให้แก่กองทุนฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยสามารถนำเงินที่บริจาคหักเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้เป็นจำนวน ๒ เท่าของรายจ่ายที่จ่ายไปแต่ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของกำไรสุทธิหรือเงินได้สุทธิแล้วแต่กรณี

ในส่วนของการจัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อขอรับบริจาคเงินเป็นทุนประเดิมในการจัดตั้งกองทุนกำหนดให้มีการจัดงานตั้งแต่วันที่ ๑๔–๑๘ มกราคม ๒๕๕๔ โดยมีกิจกรรมหลักที่ต้องดำเนินการ ดังนี้

กิจกรรมที่ ๑ : วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔ เป็นกิจกรรมการประชาสัมพันธ์โครงการ และในช่วงวันที่ ๑๔ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔ เป็นการเตรียมการเพื่อระดมทุนประเดิม

กิจกรรมที่ ๒ : วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๔ เป็นวันประกาศนโยบายคุณภาพครู เพื่อให้เกิดความสอดคล้องต่อการจัดตั้งกองทุนครูของแผ่นดิน จึงสมควรเพิ่มกิจกรรมในการประกาศนโยบายคุณภาพครู เพื่อสร้างอุดมการณ์และจิตสำนึกร่วม ของครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งบุคคล องค์กร หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันแสดงพลังในการทดแทนพระคุณครู บูชาครู ในการเฉลิมฉลองปีแห่งมหามงคล และการขอถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” โดยมีส่วนร่วมในการบริจาคเป็นทุนประเดิมในการจัดตั้งกองทุนครูของแผ่นดิน ในครั้งนี้ด้วย

กิจกรรมที่ ๓ : หลังจากการระดมทุนประเดิมวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป กิจกรรมที่จะต้องดำเนินการต่อหลังจากการจัดรายการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ การร่วมบริจาคทุนประเดิมกองทุนครูของแผ่นดิน เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนตามลำดับ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินการต่อ ได้แก่ กิจกรรมการตรวจสอบ และการรายงานผลการดำเนินการต่อสาธารณะ กิจกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินการ กิจกรรมขอบคุณผู้มีอุปการะและมอบของที่ระลึก และกิจกรรมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากองทุนครูของแผ่นดิน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น: