วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

ศธ.เล็งแก้กม.ขยายอายุเกษียณครูบางสาขาเป็น 65ปี

ศธ.เตรียมเปิดประชาพิจารณ์แก้ไข กม. ขยายเวลาเกษียณอายุข้าราชการครูบางวิทยฐานะเป็น 65 ปี และปรับบทลงโทษวินัยบางข้อให้ครอบคลุมกับโทษความผิด

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้รับทราบการแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่..) พ.ศ.... ตามที่คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และให้นำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไปประชาพิจารณ์ อาทิ การขยายเวลาเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจาก 60 ปี เป็น 65 ปี เป็นต้น

ด้านนายพิษณุ ตุลสุข รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ก.ค.ศ.จะนำประเด็นที่มีการแก้ไขไปทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและผู้เกี่ยวข้อง ในวันที่ 14 ม.ค. ที่ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าประเด็นที่จะมีการประชาพิจารณ์ มี 2 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 เกี่ยวกับองค์กรบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อาทิ องค์ประกอบของ ก.ค.ศ. อาทิ ควรให้สิทธิ์ผู้บริหารสถานศึกษาที่ไม่ได้สังกัดเขตพื้นที่การศึกษา (สพท) เป็นกรรมการ ก.ค.ศ.หรือไม่, ควรมีรอง ผอ.สพท.เป็นกรรมการใน ก.ค.ศ.หรือไม่, องค์ประกอบไตรภาคีความเป็นทวิภาคีหรือไม่, องค์ประกอบและวิธีการได้มาของอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ., ควรขยายเวลาเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาบางวิทยฐานะเป็น 65 ปี เช่นเดียวกับตำแหน่งทางวิชาการของข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัยหรือไม่

กลุ่มที่ 2 เรื่องทั่วไป ที่สำคัญคือประเด็นการขยายเวลาเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาบางวิทยฐานะเป็น 70 ปี เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนที่ขยายอายุราชการต่อไปอีก 10 ปี สำหรับตำแหน่งประเภทวิชาระดับเชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิ และประเภททั่วไประดับอาวุโส ทักษะพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในสาขาที่ขาดแคลนการปรับปรุงบทบัญญัติที่เป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับวินัยยังไม่ครอบคลุมชัดเจน เช่น การลอกเลียนผลงานทางวิชาการ รวมทั้ง "ล่วงละเมิดทางเพศ" ซึ่งเป็นคำกว้างยากแก่การกำหนดขอบเขตและการกำหนดระดับโทษ จึงควรปรับปรุงหมวดวินัยให้ครอบคลุมทุกกรณี โดยอาจบัญญัติในลักษณะเดียวกับบทบัญญัติวินัยของข้าราชการพลเรือน.

ที่มา นสพ.ไทยโพสต์

กกอ.เห็นชอบTQFครุศาสตร์

ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ได้เห็นชอบร่างประกาศ กระทรวงศึกษาธิการเรื่องมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรีสาขาครุศาสตร์ (หลักสูตร 5 ปี) หรือ TQF แต่ กกอ. มีข้อเสนอแนะบางส่วนและมอบให้นำกลับไปปรับปรุงก่อนนำเสนอให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ลงนามประกาศต่อไป สำหรับสาระสำคัญของร่างดังกล่าว ได้แก่ โครงสร้างหลักสูตรมีหน่วยกิตรวมไม่น้อยกว่า 160 หน่วยกิต ส่วนหน่วยกิตวิชาเอกที่กำหนดให้เรียนไม่น้อยกว่า 78 หน่วยกิต นั้น กกอ.เสนอให้ปรับลดลง 10 หน่วยกิต เพื่อให้สอนเรื่องของวิธีการสอนวิชาเอกเพิ่มอีก 10 หน่วยกิต หรือไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต ส่วนที่เหลือทางคณะอาจจะให้เรียนเสริมในส่วนอื่นที่จำเป็นได้

“การที่ กกอ. ต้องการให้เรียนวิธีการสอนวิชาเอก เพื่อให้นักศึกษามีพื้นฐานและเทคนิคในการสอน ในวิชาเอกนั้น ๆ นอกจากนี้เพื่อให้การผลิตครูมีประสิทธิ ภาพมากขึ้น ยังมีการกำหนดด้วยการจัดการเรียนการสอนวิชาเอกผู้ที่จะเป็นครูระดับ ม.ต้น หรือ ม.ปลาย จะต้องมีการกำหนดให้ชัดเจนว่านักศึกษาจะต้องเรียนวิชาเอกจากคณะที่สอนวิชาหลักนั้น หรือสอนโดยอาจารย์ที่มีคุณวุฒิปริญญาเอกหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ (รศ.) ในสาขาวิชาหลัก และมีผลงานวิชาการเป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่องในสาขาวิชาหลักนั้น ๆ รวมทั้งกำหนดให้การผลิตครูถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคณะในมหาวิทยาลัยที่จะต้องร่วมกันสอนด้วย โดย กกอ. เสนอให้แต่ละมหาวิทยาลัยตั้งคณะกรรมการครุศึกษา ขึ้นมาทำหน้าที่ประสานงานกับคณะต่าง ๆ ด้วย” ดร.สุเมธกล่าว.

ที่มา นสพ.เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น: