วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

มติ ครม. ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๔

เห็นชอบ (ร่าง) กฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิของบุคคลหรือองค์กรในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทยในศูนย์การเรียนคนต่างด้าว พ.ศ. ....

ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิของบุคคลหรือองค์กรเอกชนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทยในศูนย์การเรียนคนต่างด้าว พ.ศ. .… ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้

สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งไม่เกิน ๓ คน รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด

นอกจากนี้ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดผู้ได้รับมอบหมายเป็นประธานกรรมการ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งไม่เกิน ๑๐ คนเป็นกรรมการ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด และกำหนดให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาที่รับผิดชอบการจัดหรือส่งเสริมการศึกษาที่มีศูนย์การเรียนมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด

ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงได้กำหนดให้ผู้ขอจัดตั้งศูนย์การเรียนยื่นคำขออนุญาตพร้อมแผนการจัดการศึกษา และรายละเอียดการดำเนินงานตั้งสำนักงาน กำหนดคุณสมบัติของผู้ขอจัดตั้งศูนย์การเรียน องค์กรเอกชนที่ขอจัดตั้งศูนย์การเรียน ผู้บริหาร ผู้สอน และบุคลากรในศูนย์การเรียน ตามหลักเกณฑ์การจัดทำหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอนที่กำหนด ตลอดจนกำหนดเงื่อนไขการสิ้นสภาพศูนย์การเรียน และการดำเนินการกรณีศูนย์การเรียนสิ้นสภาพ

อนุมัติวงเงินรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๔ งบกลาง สำหรับจ้างพี่เลี้ยงเด็กพิการ ๑๔,๑๘๔ อัตรา

ครม.ได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับจ้างพี่เลี้ยงเด็กพิการ จำนวน ๑๔,๑๘๔ อัตรา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ๒๕๕๔ เป็นจำนวน ๒๒๑,๓๔๗,๕๐๐ บาท (โดยรวมเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ร้อยละ ๕ ด้วย)

ทั้งนี้ การจ้างพี่เลี้ยงเด็กพิการจำนวนดังกล่าว มีระยะเวลาการจ้างเดือนละ ๕,๐๘๐ บาทต่ออัตรา ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น ๓๗๘,๒๘๗,๒๘๐ บาท ซึ่ง สพฐ.ได้ดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณแล้ว มีงบประมาณเหลือจากการจัดสรรงบประมาณ ๑๔๘ ล้านบาท และเมื่อรวมงบประมาณจากโครงการคืนครูอีก จำนวน ๘,๙๓๙,๗๘๔ บาท จะมีงบประมาณที่สามารถนำมาเจียดจ่ายเป็นค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กพิการจำนวนทั้งสิ้น ๑๕๖,๙๓๙,๗๘๔ บาท แต่โดยที่ในการจ้างพี่เลี้ยงเด็กพิการ จำนวน ๑๔,๑๘๔ อัตรา จะต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๓๗๘,๒๘๗,๒๘๐ บาท ดังนั้น สพฐ. จึงต้องเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปี สำหรับจ้างพี่เลี้ยงเด็กพิการจำนวนดังกล่าว

อนึ่ง ครม.ได้เห็นชอบในหลักการให้ปรับโครงสร้างของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกำหนดให้เปลี่ยนชื่อจาก "กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์" เป็น "กระทรวงการพัฒนาสังคม" และกำหนดการแบ่งส่วนราชการใหม่โดยแบ่งออกเป็น ๗ ส่วนราชการ คือ สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กรมประชาสงเคราะห์ และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

ไม่มีความคิดเห็น: