เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่โรงแรม แกรนด์ทาวเวอร์ อินน์ กทม. สมาคมบ้านเรียนไทย ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดประชุมสัมมนาเรื่อง ก้าวแรกและก้าวใหม่ก้าวอย่างไร สู่บ้านเรียน"
นายชาตรี เนาวธีรนนท์ นายกสมาคมบ้านเรียนไทย กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีการปฏิรูปการศึกษามากว่า 10 ปี แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคุณภาพทั้งด้านวิชาการ ด้านศักยภาพ ไอคิว อีคิว ของเด็กไทยยังอยู่ในระดับต่ำทำให้มีการศึกษาทางเลือกเกิดขึ้นมากกมาย เช่น การจัดการศึกษาโดยครอบครัวหรือที่เรียกว่า โฮมสคูล ซึ่งปัจจุบันมีครอบครัวที่ขอจดทะเบียนจัดการศึกษาแบบโฮมสคูล ต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามกฎกระทรวงการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว พ.ศ.2547 จำนวน 101 ครอบครัว มีนักเรียนจำนวน 203 คน และยังมีอีกหลายครอบครัวที่ยังไม่ได้ยื่นขอจดทะเบียน ขณะที่ในอนาคตจะมีครอบครัวใหม่ๆ ที่สนใจจะจัดการศึกษาเองอีกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้การจัดการศึกษาแบบโฮมสคูล ยังมีปัญหาและอุปสรรคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาที่ต้องจัดหลักสูตรการศึกษา การประเมินผล ตามมาตรฐานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด เนื่องจากระบบมีความแตกต่างกันจึงควรให้มีความยืดหยุ่นมากกว่านี้ และยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากกระทรวงฯอาทิ เงินอุดหนุนที่ยังน้อยเกินไป อันที่จริงการศึกษาแบบโฮมสคูลมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งรัฐควรสนับสนุน เพราะช่วยรัฐลดภาระ รวมไปถึงการสนับสนุนแหล่งเรียนรู้ในระบบ เช่น ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ หากจะให้เด็กเข้าไปใช้บริการต้องมีการทำหนังสือขออนุญาต ทำให้หลายครอบครัวไปแสวงหาแหล่งเรียนรู้ที่อื่นเอง จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วย
นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า ยอมรับว่าการขอจดทะเบียนจัดการศึกษาโดยครอบครัว มีขั้นตอนยุ่งยาก ผู้ขอจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อม ในการจัดทำแผนการศึกษา มีการวัดผลประเมินผลตามมาตรฐานของกระทรวงฯ ซึ่งสภาการศึกษาจะนำปัญหาต่างๆไปปรับปรุงนโยบายเพื่อลดความยุ่งยาก ทั้งนี้ปัจจุบันหลายครอบครัว ประสบความสำเร็จ เด็กสามารถเข้าเรียนต่อในระดับสูงเป็นจำนวนมาก
พร้อมระบุว่าเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องสนับสนุน ไม่จำเป็นต้องมีแค่การศึกษาในระบบ ซึ่งโฮมสคูล มีจุดเด่นที่ผู้สอน หรือผู้ปกครอง จะมีความใกลชิดกับเด็กมากที่สุด สามารถฝึกให้เด็ก เรียนรู้ คิด วิเคราะห์ด้วยตัวเองได้ง่ายกว่าการเรียนในห้องสี่เหลี่ยม ยังช่วยให้สามารถดึงศักยภาพของเด็กออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะผู้ปกครองจะรู้ว่าเด็ก มีความสามารถ จุดเด่น ตรงไหน อย่างไร เพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพตรงนั้นได้อย่างเต็มที่
นางปทุมรัตน์ เหรียญไพศาล รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า มีการร้องเรียนให้กระทรวงฯปรับปรุง เช่นปัญหาเรื่องหลักสูตรไม่สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน ปัญหาการจัดประเมินผลผู้เรียนขาดความยืดหยุ่น ปัญหาการเทียบโอนผลการเรียนและปัญหาการให้บริการจัดการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ยังขาดความเข้าใจ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะได้นำปัญหาไปทำแผนพัฒนานโยบายปรับปรุงต่อไป
นอกจากนี้ยังต้องพัฒนาระบบการรองรับเด็กนักเรียนที่มาจากระบบการศึกษาทางเลือกและมีความประสงค์จะเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ระดับอาชีวะ เพื่อส่งให้เด็ก ไปถึงจุดสูงสุดที่เขาจะไปได้
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ปกครองที่มีความประสงค์จะจัดการศึกษาด้วยตัวเองให้กับเด็ก แต่กลัวจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากกระทรวงฯ อาทิเงินอุดหนุนรายหัว เครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์นักเรียน หนังสือเรียน หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เหมือนกับเด็กนักเรียนในระบบทั่วไปนั้น ยืนยันว่าเด็กทุกคนจะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นดียวกัน โดยผู้ปกครองสามารถติดต่อขอรับสิทธิ์ดังกล่าวได้ที่สำนักงานเขตการศึกษาในพื้นที่
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
-
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำตราสัญลักษณ์(ภาพเครื่องหมายราชการ)ขึ้นใหม่ และได้แจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะร...
-
1. เงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ จัดอยู่ในงบประมาณหมวดใด ก. งบบุคลากร ข. งบดำเนินการ ค. งบเงินอุดหนุน ง. งบอื่นๆ 2. ค่าตอบแทน หมายถึง ก. เงินที่จ...
-
1. MIS = Management Information System = ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ 2. CPU = Central Processer Unit = หน่วยประมวลผลกลาง 3. Data = ข้อมูล 4....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น