วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปลุกศธ.พัฒนา'บ้านเรียน'เพิ่มทางเลือกนอกระบบเพื่อเด็ก

สมาคมบ้านเรียนไทยร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดประชุมสัมมนาเรื่อง "ก้าวแรกและก้าวใหม่ ก้าวอย่างไร สู่บ้านเรียน"เมื่อเร็วๆ นี้ โดย นายชาตรี เนาวธีรนนท์นายกสมาคมบ้านเรียนไทย กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีการปฏิรูปการศึกษามากว่า 10 ปีแต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คุณภาพทั้งด้านวิชาการ ด้านศักยภาพ ไอคิว อีคิว ของเด็กไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีการศึกษาเด็กไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีการศึกษาทางเลือกเกิดขึ้นมากมาย เช่น การจัดการศึกษาโดยครอบครัว หรือที่เรียกว่า โฮมสคูลซึ่งปัจจุบันมีครอบครัวที่ขอจดทะเบียนจัดการศึกษาแบบโฮมสคูล ต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามกฎกระทรวงการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว พ.ศ. 2547 จำนวน101 ครอบครัว มีนักเรียนจำนวน 203 คนและยังมีอีกหลายครอบครัวที่ยังไม่ได้ยื่นขอจดทะเบียน ขณะที่ในอนาคตจะมีครอบครัวใหม่ๆ ที่สนใจจะจัดการศึกษาเองอีกเป็นจำนวนมาก

นายชาตรี กล่าวว่า การจัดการศึกษาแบบโฮมสคูล ยังมีปัญหาและอุปสรรค ต้องจัดหลักสูตรการศึกษา การประเมินผล ตามมาตรฐานที่ศธ.กำหนด ถือเป็นอุปสรรคอย่างมาก เพราะการจัดศึกษาของทั้ง 2 ระบบมีความแตกต่างกัน จึงควรให้มีความยืดหยุ่นมากกว่านี้นอกจากนี้ ครอบครัวที่จัดการศึกษาทางเลือกยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก ศธ.

ด้าน นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า ยอมรับว่าการดำเนินการขอจดทะเบียนจัดการศึกษาโดยครอบครัว มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ผู้ขอจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อม ในการจัดทำแผนการศึกษา มีการวัดผล ประเมินผลตามมาตรฐานของ ศธ. ซึ่งสภาการศึกษาจะนำปัญหาต่างๆ ไปพัฒนาปรับปรุงนโยบายเพื่อลดความยุ่งยาก ทั้งนี้ ปัจจุบันมีหลายครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ เด็กสามารถเข้าเรียนต่อในระดับสูงเป็นจำนวนมาก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องสนับสนุนให้มีการจัดการศึกษาทางเลือก ไม่จำเป็นต้องมีแค่การศึกษาในระบบ

"การศึกษาโดยครอบครัว มีจุดเด่นที่ผู้สอนหรือผู้ปกครอง จะมีความใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด สามารถฝึกให้เด็ก เรียนรู้ ฝึกคิด วิเคราะห์ด้วยตัวเองได้ง่ายกว่าการเรียนในห้องสี่เหลี่ยม และยังช่วยให้สามารถดึงศักยภาพของเด็กออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะผู้ปกครองจะรู้ว่าเด็กมีความสามารถ จุดเด่นตรงไหน เพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่"นางสุทธศรี กล่าว

นางปทุมรัตน์ เหรียญไพศาลรองผอ.สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่าหลายครอบครัวที่ต้องการจัดการศึกษา และร้องเรียนให้ศธ. ปรับปรุงแก้ไขทั้งปัญหาหลักสูตรการเรียนการสอนไม่สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน ปัญหาการจัดประเมินผลผู้เรียนที่ยังขาดความยืดหยุ่น ปัญหาการเทียบโอนผลการเรียน และปัญหาการให้บริการจัดการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ยังขาดความเข้าใจ ซึ่งศธ.จะได้นำปัญหาไปทำแผนพัฒนานโยบายปรับปรุง นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาระบบการรองรับเด็กนักเรียนที่มาจากระบบการศึกษาทางเลือก และมีความประสงค์จะเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ระดับอาชีวะ เพื่อส่งให้เด็กไปถึงจุดสูงสุดได้

ผู้ปกครองที่จัดการศึกษาด้วยตัวเองให้กับเด็ก สามารถรับสิทธิประโยชน์จากศธ. อาทิเงินอุดหนุนรายหัว เครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์นักเรียน หนังสือเรียน หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เหมือนกับเด็กนักเรียนในระบบทั่วไปโดยสามารถติดต่อขอรับสิทธิ์ได้ที่สำนักงานเขตการศึกษาในพื้นที่

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

2 ความคิดเห็น:

ครูแอ็ด กล่าวว่า...

ฝากผู้บริหารทุกท่านเมื่อเข้ามาอยู่จุดนี้แล้วตัวของท่านเตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้บริหารที่มึคุณภาพทุกๆด้านแล้วหรือยัง

ครูแอ็ด กล่าวว่า...

การเก็บเกี่ยวประสบการในหลายๆด้านสำหรับผู้บริหารแล้วนับว่ามีความสำคัญมาก ความเป็น Leadership ที่สมบูรณ์ผู้บริหารหลายท่านยังขาดคุณสมบัติข้อนี้มาก