วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สถานี ก.ค.ศ.: เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะ ขรก.ครู และบุคลากรทางการศึกษา 3 จว.ใต้

การสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้มีความก้าวหน้ามั่นคงในวิชาชีพนั้นเป็นสิ่งที่สำนักงาน ก.ค.ศ.มีความตระหนัก เล็งเห็นความสำคัญและได้ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ

ได้มีการออกหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์ว17/2552 ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่จะพิจารณาจากผลการเรียนของเด็ก เพื่อใช้ในการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ หรือเกณฑ์ ว 5/2554 ซึ่งจะพิจารณาจากผลงานของครูที่ได้รับรางวัลระดับชาติ หรือที่เรียกว่า เกณฑ์เชิงประจักษ์ ซึ่งผู้ประเมินจะไปประเมินจากสภาพจริงที่เกิดขึ้น และนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ก.ค.ศ.ยังกำหนดให้มีหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะสำหรับพื้นที่พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มเติมขึ้นมาอีก 1 หลักเกณฑ์ด้วย เนื่องจากเล็งเห็นถึงสภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอนที่มีความยุ่งยาก ลำบาก เสี่ยงภัย ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ดังกล่าว ในวันนี้ จึงขอนำสรุปหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นที่อำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) มีวิทยฐานะชำนาญการและมีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ศธ 0206.4/ว10 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2554 มานำเสนอเป็นความรู้ให้ กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้

1.ผู้ประสงค์ขอรับการประเมินยื่นคำขอได้ตลอดปี รอบปีละ 1 ครั้ง สำหรับผู้ที่จะเกษียณอายุราชการให้ยื่นคำขอ ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2.ในการยื่นขอรับการประเมินผู้ขอรับการประเมินต้องส่งคำขอ แบบรายงานด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ (ด้านที่1) พร้อมทั้งผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (ด้านที่ 3) สำหรับผู้ขอมีวิทยฐานะชำนาญการต้องส่งเอกสารรายงานข้อจำกัดตามสภาพความยากลำบากในการปฏิบัติงาน ผู้ขอมีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ต้องจัดทำผลงานที่ประสบผลสำเร็จ ที่แสดงถึงความเป็นมา/แนวคิดวัตถุประสงค์ วิธีการดำเนินการ ผลที่ได้รับ และข้อเสนอแนะ ซึ่งเกิดจากการแก้ปัญหางานในหน้าที่ ที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่และผลงานที่เกิดจากการพัฒนา จำนวน 4 ชุด ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
3.คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เสนอขอรับการประเมิน จะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งหรือช่วยปฏิบัติราชการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีติดต่อกัน หรือนับรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปีติดต่อกันนับถึงวันที่ยื่นคำขอ
4.การประเมินให้ใช้แบบประเมินและคู่มือการประเมินตามหลักเกณฑ์ ว17
5.ผู้ที่ขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการเดิมที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ให้ดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ และผู้ที่ประสงค์ยื่นคำขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ หากได้ยื่นคำขอฯตามหลักเกณฑ์อื่นไว้ ต้องขอระงับคำขอนั้นๆก่อนยื่นคำขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้
7.ผู้ที่ได้รับการอนุมัติให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์นี้ หากจะขอย้ายไปดำรงตำแหน่งหรือช่วยปฏิบัติราชการนอกเขตพื้นที่ต้องมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในพื้นที่พิเศษดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 3 ปี นับแต่วันอนุมัติผลการประเมิน เว้นแต่มีเหตุผลและความจำเป็นพิเศษ

ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

ไม่มีความคิดเห็น: