วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

การเสนอรายชื่อ'ขอมีและเลื่อน'วิทยฐานะเกณฑ์เชิงประจักษ์

สัปดาห์ที่แล้วได้นำเสนอการขยายเวลาการเสนอรายชื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งกำหนดขยายเวลาการเสนอรายชื่อไปเป็นภายในวันที่ 30 กันยายน 2554 และการเสนอรายชื่อให้ส่วนราชการต้นสังกัดเรียงลำดับตามคุณภาพของผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์และองค์ประกอบอื่นตามความเหมาะสม

สัปดาห์นี้จะนำเสนอกระบวนการในการเสนอรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการประเมินให้มีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ดังนี้

1.ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการประเมินกรณีเป็นผู้มีผลงานดีเด่นที่ได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไป หรือกรณีเป็นผู้มีผลงานดีเด่นที่มีคุณภาพเทียบเคียงกับผลงานที่ได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไปให้กรอกข้อมูลตามแบบที่ ก.ค.ศ.กำหนด
2.ในแต่ละแบบให้กรอกข้อมูลจำแนกเป็นแต่ละสาขา ได้แก่ สาขาบริหารสถานศึกษาสาขาบริหารการศึกษา สาขานิเทศการศึกษาสำหรับสายงานการสอนให้จำแนกตามสาขาวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยให้เรียงลำดับตามแนวทางดังนี้
2.1)เรียงลำดับผลงานดีเด่นจากระดับนานาชาติ ระดับชาติ และระดับส่วนราชการตามลำดับ
2.2)เรียงลำดับผลงานดีเด่นประเภทบุคคลที่ระบุชื่อผู้ได้รับรางวัลให้อยู่ในลำดับที่สูงกว่าผลงานดีเด่นประเภททีมหรือประเภทไม่ระบุชื่อบุคคล
2.3)เรียงลำดับผลงานดีเด่นที่จัดทำแต่เพียงผู้เดียวให้อยู่ในลำดับสูงกว่าประเภทร่วมกันจัดทำและในประเภทที่ร่วมกันจัดทำให้พิจารณาจากผลงานดีเด่นที่ผู้จัดทำมีส่วนร่วมจัดทำจากมากที่สุดไปหาน้อย โดยคิดเป็นร้อยละ
2.4)เรียงลำดับผู้ที่มีจำนวนผลงานดีเด่นหลายรางวัล/หลายชิ้น/หลายเรื่องที่สอดคล้องกับสาขา/สาขาวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เสนอขอมากกว่า ให้อยู่ในลำดับที่สูงกว่าผู้ที่มีจำนวนผลงานดีเด่นที่สอดคล้องกับสาขา/สาขาวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เสนอขอน้อยกว่า
3.การรายงานผลงานดีเด่นฯ ผู้ขอมีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ต้องรายงานให้ครบ 2 รางวัล และผู้ขอมีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ต้องรายงานให้ครบ3 รางวัล โดยต้องมีผลงานดีเด่นที่ตรงกับสาขา/สาขาวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เสนอขออย่างน้อยจำนวน 1 รางวัล
4.ผู้ขอรับการประเมินจะต้องจัดทำเอกสารสรุปผลงานดีเด่นฯ ครบทุกรางวัล/ ชิ้น/เรื่องตามที่รายงานไว้ในแบบเสนอขอ โดยมีเนื้อหาสาระครบทุกรางวัล/ชิ้น/เรื่อง รวมกันแล้วไม่เกิน 50 หน้า อยู่ในเล่มเดียวกันหรือแยกเล่มก็ได้และไม่ต้องมีภาคผนวก
5.ผู้ขอรับการประเมินต้องจัดทำข้อเสนอในการพัฒนางานตามแนวคิดในการพัฒนาผลงานดีเด่น ซึ่งตรงกับสาขา/สาขาวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เสนอขอ จำนวน 1 เรื่อง
6.ผู้เสนอขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไปไม่ครบตามจำนวนที่ ก.ค.ศ.กำหนดถือว่าไม่มีคุณสมบัติตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด

รายละเอียดต่างๆ สามารถศึกษาได้จากหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ0206.3/ว14 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2554

ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน คอลัมน์: สถานี ก.ค.ศ.

ไม่มีความคิดเห็น: