วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คอลัมน์: สถานีก.ค.ศ.:การเป็นหนี้สินผิดวินัยหรือไม่ โดย ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.

มีปัญหาซักถามดิฉันบ่อยครั้งที่ดิฉันออกไปบรรยายให้ความรู้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเรื่องของวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เช่น คุณครูเป็นหนี้สินผิดวินัยหรือไม่ คำตอบก็ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นรายๆ ไป ตัวอย่าง เช่น นายขวัญกู้เงินนางสาวเรียมมีหลักฐานเป็นหนังสือ ซึ่งความประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 การกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั้นถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง ลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ ท่านจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่

สรุปจะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ถ้าเผอิญวันนั้นนายขวัญกู้ยืมเงินของนายสาวเรียม กระดาษเขียนเป็นหลักฐานไม่ได้ เผอิญมีผ้าเช็ดหน้าสีขาวสี่เหลี่ยมจัตุรัสเขียนว่านายขวัญได้กู้ยืมเงินของนางสาวเรียม เป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท(หนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน) พร้อมกับลงลายมือชื่อนายขวัญในฐานะผู้กู้ และนางสาวเรียมลงชื่อในฐานะผู้ให้กู้ แล้วเก็บผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเป็นหลักฐาน
กรณีเช่นนี้ นายขวัญไม่ยอมชำระหนี้แก่นางสาวเรียม ทั้งที่ถึงกำหนดชำระแล้ว นางสาวเรียมสามารถนำไปเป็นหลักฐานฟ้องร้องต่อศาลได้ แต่กรณีกลับกัน นายสวัสดิ์กู้เงินป้าแดง แม่ค้าขายข้าวแกงในโรงอาหารของโรงเรียน โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ งานนี้ป้าแดงจะนำไปฟ้องเรื่องที่ศาลไม่ได้ เรียกว่างานนี้เที่ยวงานกาชาดฟรี ตอนนี้ใครก็ตามอยากจะเป็นเจ้าหนี้ก็ต้องรัดกุม อยากเป็นลูกหนี้ให้สมบูรณ์ก็ต้องลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน หากหนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระเจ้าหนี้ต้องรอให้ถึงกำหนด จะเอะอะนำหลักฐานการกู้ยืมหรือไม่มีหลักฐานไปยื่นขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาช่วยแก้ไขปัญหา ดอกก็ไม่เห็นต้นก็ไม่มี ขออนุญาตพึ่งท่านฐานะผู้บังคับบัญชาของลูกหนี้ ส่วนท่านผู้บริหารสถานศึกษาช่วยท่านเจ้าหนี้ได้นิดหน่อยคือ ขอเชิญท่านไปปรึกษาผู้รู้กฎหมายและพึ่งบารมีต่อศาล และท่านคุณครูที่เป็นลูกหนี้เวลาเจ้าหนี้มาเยี่ยม (ทวงเงิน) ไม่ต้องหนีออกนอกบริเวณสถานศึกษา หรือแสดงกายกรรมกวางเจากระโดดรั้วโรงเรียนหายไปหรือจะกระโดดกำแพง เพราะพฤติกรรมจะกลายเป็นผิดวินัยกรณีละทิ้งหน้าที่ราชการปล่อยนักเรียนเรียนกันเองตามอัธยาศัย วิธีแก้ไข อยู่เผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ สู้ความจริง ใช้มธุรสวาจาสุภาพอ่อนหวาน ทำตัวเป็นพจมาน นางเอกละครแห่งบ้านทรายทองห้ามชี้นิ้ว ห้ามแสดงโขนตอนหนุมานรบทัพจับศึกกับทศกัณฐ์ รับรองไม่ผิดวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ส่วนเจ้าหนี้ที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอาจถูกลงโทษทางวินัย ท่านเป็นข้าราชการก็เป็นการกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วเหมือนกัน และถ้าฟ้องศาลก็ได้เฉพาะเงินต้นเท่านั้น

ส่วนดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดเป็นโมฆะ "สรุป ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ถ้าเป็นลูกหนี้ก็ต้องทำตัวสุภาพเรียบร้อยและชำระหนี้ตามสัญญา รับรองไม่ผิดวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา"

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

1 ความคิดเห็น:

tongkam กล่าวว่า...

ถ้าเป็นหนี้ผิดวนัย ข้าราชการไทย ก็คงจะผิดแทบทุกคน