วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๕
เป็นวันที่ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช
เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นวันแรก
ได้ประกาศนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการศึกษา ๗
ข้อ ได้แก่ ๑) การพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับทุกประเภท
โดยมุ่งเน้นเป้าหมายคือนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ๒)
การสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ๓)
การปฏิรูปครูเพื่อยกฐานะครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง ๔)
การจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาอาชีวศึกษา
และการฝึกอาชีพให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ๕)
การพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทัดเทียมกับนานาชาติ ๖)
การสนับสนุนการพัฒนาเพื่อสร้างทุนปัญญาของชาติ และ ๗)
การเพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมอา
เซียน
สำนักงาน ก.ค.ศ. ในฐานะเจ้าหน้าที่ดำเนินงานของ ก.ค.ศ.
ซึ่งเป็นองค์กรกลางการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช)
เป็นประธานคณะกรรมการ
ได้รับมอบหมายภารกิจที่สำคัญยิ่งในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุน
และส่งเสริมให้เกิดการปฏิรูปครูตามยุทธศาสตร์ที่ ๓
ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ด้านการปฏิรูปครู เพื่อยกฐานะครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง
โดยมีชุดโครงการที่สำคัญ (Flagship) คือ
การปรับปรุงระบบเงินเดือนและค่าตอบแทนพัฒนาระบบความก้าวหน้าของครู
ฝึกอบรมครูอย่างเข้มข้นให้มีคุณภาพ และลดรายจ่ายเพิ่มรายได้
สร้างโอกาสให้กับครู
นับจากวันนั้น จนถึงวันนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้ดำเนินงานต่างๆ เพื่อสนองตอบต่อนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
๑. จัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครูคืนถิ่น
เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ยังภูมิลำเนาของตนเองหรือภูมิลำเนาของคู่สมรส
หรือภูมิลำเนาของบิดามารดา
ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการครูและบุคลากรให้ได้กลับ
ไปยังภูมิลำเนาแล้ว
ยังเป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาระบบการศึกษาในท้องถิ่นของตนเองด้วย
๒. กำหนดตำแหน่งและระดับเงินเดือน
การให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งของบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา ๓๘ ค.(๒)
ให้มีความก้าวหน้าไปถึงระดับเชี่ยวชาญได้ ๓ สายงาน คือ
สายงานในตำแหน่งนักวิชาการศึกษา นิติกร เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน
๓.
ดำเนินการพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามี
หรือเลื่อนวิทยฐานะ เกณฑ์ใหม่
ที่ให้นำคะแนนผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนมาประกอบการพิจารณาในการขอมีหรือเลื่อน
วิทยฐานะ และการให้ชุมชน และผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินครูด้วย
๔.จัดประชุมทางวิชาการเพื่อให้ความรู้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ในการเตรียมความพร้อมเพื่อจัดทำผลงานทางวิชาการ
เพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษาอีกทางหนึ่ง โดยผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
สายงานบริหารการศึกษา
สายงานบริหารสถานศึกษาและสายงานนิเทศการศึกษาจะได้รับความรู้เกี่ยว
กับการประเมินโครงการและการวิจัยสถาบันสำหรับสายงานการสอนได้รับความรู้
เรื่องการพัฒนานวัตกรรรมการเรียนการสอนและการวิจัยในชั้นเรียน
๕.จัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้ารราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใหม่โดย
มีเฉพาะการสอบข้อเขียนแบบปรนัยทุกภาคและทุกตำแหน่ง
เพื่อให้การสรรหาเป็นไปด้วยความโปร่งใส
ตรวจสอบได้สร้างกระทรวงศึกษาธิการใสสะอาด
๖.
จัดระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ให้มีประสิทธิภาพมีความรวดเร็ว ลดระยะเวลาในการให้บริการ
โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นการจัดการแนวใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
และได้ออกประกาศ เพื่อให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้ว
๗.พัฒนาระบบเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยได้ปรับปรุงกฎ
ก.ค.ศ.
ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือ
ต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ รวมทั้งปรับปรุงกฎ ก.ค.ศ.
ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง
ใหม่ได้รับเงินเดือน ๑๕,๐๐๐ บาท ตามนโยบายของรัฐบาล
ในขณะเดียวกันผู้ที่อยู่ในระบบเดิมก็ได้รับการปรับอัตราเงินเดือนที่เหมาะสม
สามารถเลื่อนเงินเดือนไปในอันดับ คศ.
ที่สูงกว่าได้หากเงินเดือนเลยขั้นสูงของอันดับที่รับอยู่
๘.
ดำเนินการประเมินวิทยฐานะ ตามเกณฑ์ ว ๕/๒๕๕๔
ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ส่งเสริมให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผล
งานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์มีการพัฒนาการเรียนการสอนจากสื่อ
หรือวิธีการสอนของครูในการพัฒนาผู้เรียนจนได้รับรางวัล
สามารถใช้ผลงานนั้นมาขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะได้นอกจากนี้ยังประกาศใช้หลัก
เกณฑ์ดังกล่าว ต่อไปอีกเป็นรุ่นที่ ๒
๙.ได้มีการกำกับติดตาม
และตรวจสอบเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียนต่างๆ รวมถึงการสืบสวนหาข้อเท็จจริง
เพื่อให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย อาทิ
การลอกเลียนผลงานทางวิชาการการเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้ง โยกย้าย
เป็นต้น
นี่คือความภาคภูมิใจที่ชาวสำนักงาน ก.ค.ศ.
ได้ปฏิบัติงานด้านการบริหารงานบุคคลให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษา ภายใต้นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศาสตราจารย์
ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช
และสำนักงานก.ค.ศ.จะมุ่งมั่นปฏิบัติงานต่อไปด้วยปณิธานการทำงานที่ว่า
รวดเร็ว มาตรฐานบริการอย่างเป็นธรรม
สำนักงาน ก.ค.ศ. กระทรวงศึกษาธิการ โทร. ๐-๒๒๘-๒๘๓๕ www.moe.go.th/webtcs
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
-
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำตราสัญลักษณ์(ภาพเครื่องหมายราชการ)ขึ้นใหม่ และได้แจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะร...
-
1. เงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ จัดอยู่ในงบประมาณหมวดใด ก. งบบุคลากร ข. งบดำเนินการ ค. งบเงินอุดหนุน ง. งบอื่นๆ 2. ค่าตอบแทน หมายถึง ก. เงินที่จ...
-
1. MIS = Management Information System = ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ 2. CPU = Central Processer Unit = หน่วยประมวลผลกลาง 3. Data = ข้อมูล 4....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น