วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ครม.ฺอนุมัติร่างกฎ ก.ค.ศ.ฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ

สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ๒ เรื่อง คือ อนุมัติร่างกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ และอนุมัติการจัดทำบันทึกความเข้าใจด้านการศึกษาและการวิจัย ระหว่างไทยและฝรั่งเศส                                                                          

๑) อนุมัติร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ

ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

สาระสำคัญของร่างกฎ ก.ค.ศ.
-กำหนดให้การถูกลดขั้นเงินเดือน การเปลี่ยนตำแหน่ง ย้าย หรือโอน ได้รับเงินเดือนในขั้นอัตราตามที่กำหนด (ร่างข้อ ๑ และ ๒)
-กำหนดให้ครูผู้ช่วยได้รับเงินเดือนในขั้นหรืออัตราตามที่กำหนด (ร่างข้อ ๓)
-กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งและวิทยฐานะสูงขึ้น ได้รับเงินเดือนในขั้นหรืออัตราตามที่กำหนด (ร่างข้อ ๔)
-กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับปริญญาประกาศนียบัตร คุณวุฒิอย่างอื่น ซึ่ง ก.ค.ศ. รับรอง หรือได้รับปริญญา ประกาศนียบัตรหรือคุณวุฒิ เพิ่มขึ้น หรือสูงขึ้น ได้รับเงินเดือนในอันดับและขั้นหรืออัตราเงินเดือนตามที่กำหนด (ร่างข้อ ๕ และ ๖)
-กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับเงินเดือนของตำแหน่งวิทยฐานะในอันดับ คศ.๒ คศ.๓ หรือ คศ.๔ ตลอดจนผู้ที่ต้องพ้นจากราชการเพราะเหตุเกษียณอายุและได้รับเงินเดือนในอันดับดังกล่าวได้รับเงินเดือนในอันดับตามที่กำหนด (ร่างข้อ ๗)
-กำหนดให้หากมีกรณีอื่นที่ต่างไปจากที่กฎ ก.ค.ศ.นี้กำหนดให้ ก.ค.ศ.เป็นผู้วินิจฉัย (ร่างข้อ ๘)
-กำหนดบทเฉพาะกาล ที่เกี่ยวกับการได้รับเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วย ที่ผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม และผู้ที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับ คศ.๓ หรือ คศ.๔ ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ตลอดจนการใดๆ ที่ดำเนินการตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ พ.ศ.๒๕๕๓ หรือที่เคยดำเนินการตามกฎ ก.ค.ศ. ดังกล่าว (ร่างข้อ ๙-๑๒)

๒) อนุมัติการจัดทำบันทึกความเข้าใจด้านการศึกษาและการวิจัย ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐฝรั่งเศส
-ครม.อนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจด้านการศึกษาและการวิจัย ระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ตามที่ ศธ.เสนอ ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ ศธ.หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ แทน ครม.โดยไม่ต้องนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
สาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจ ร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีสาระสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือทางการศึกษาในทุกระดับการศึกษาของทั้ง ๒ ประเทศ ทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาสายอาชีพ การศึกษานอกโรงเรียน และการอุดมศึกษา ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวประกอบด้วยหลายรูปแบบ เช่น การเจรจาระดับสูง การแลกเปลี่ยนครูและบุคลากรทางการศึกษา การวิจัย การแลกเปลี่ยนนักวิจัยรุ่นเยาว์ การฝึกอบรมเชิงเทคนิค การประชุมสัมมนาเชิงวิชาการ การส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนการสอนภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย เป็นต้น

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี

10 ประเทศ ' อาเซียน ' ลงมติ ใช้หลักสูตร ' แกนกลาง ' ร่วมกัน

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่เมืองยอร์ก ยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซียนครั้งที่ 7 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบกรอบความร่วมการจัดการศึกษาในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการเทียบโอนหน่วยกิตในระดับอุดมศึกษา ที่สามารถถ่ายโอนไปเรียนในประเทศสมาชิกได้ รวมถึงจัดทำเอกสาร asean curriculum sourcebook ซึ่งเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรอาเซียนทุกรายวิชา และประเทศไทยเสนอเป็น เจ้าภาพจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับเรื่อง ดังกล่าวในช่วงเดือนพฤศจิกายน

"การประชุมครั้งนี้เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยเน้นไปที่การจัดการศึกษาร่วมกันอย่างมีคุณภาพ ในระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานให้สามารถทำงานข้ามพรมแดนได้ ส่วนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่ละประเทศจะมีการเตรียมพร้อมให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประเทศอาเซียนแก่เด็ก เพื่อให้มีความเข้าใจพื้นฐานวัฒนธรรมและการอยู่ร่วมกัน" นายสุชาติกล่าว

นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะนำ asean curriculum sourcebook ซึ่งถือเป็นเกณฑ์กลางเพื่อให้ 10 ประเทศอาเซียนนำไปปรับการเรียนการสอนทั้งในส่วนของระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยในส่วนของประเทศไทย ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ส่งเสริมให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนเพื่อ ปูพื้นความรู้เกี่ยวกับประเทศในกลุ่มอาเซียนให้ กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาผ่านการจัดกิจกรรม รูปแบบต่างๆ ขณะเดียวกันในส่วนของหลักสูตรส่วนใหญ่เนื้อหาเกี่ยวกับประเทศอาเซียน จะสอดแทรกอยู่ในแต่ละวิชา ดังนั้น คาดว่าคงจะมีการปรับเพิ่มเพียงเล็กน้อย แต่ในบางรายวิชาอาจต้องเพิ่มเติมเนื้อหาบางส่วน อาทิ ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์กลุ่มประเทศอาเซียนเข้าไปให้มากขึ้น เนื่องจากเมื่อมีการรวมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจริงๆ อยากให้นักเรียนมีความรู้สึกร่วมกันว่าเป็นพลเมืองอาเซียน ไม่ใช่ประชาชนของประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักสูตรเกณฑ์กลางดังกล่าว จะกำหนด 5 กรอบ ได้แก่ 1.ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอาเซียน 2.คุณค่าและความหลากหลาย 3.การติดต่อทั้งภายในภูมิภาคและประเทศ อื่นๆ ทั่วโลก 4.การส่งเสริมด้านความถูกต้องและยุติธรรม และ 5.การทำงานร่วมกันเพื่อความร่วมมืออันดีในอนาคต โดยจะมุ่งพัฒนา 4 ด้าน ได้แก่ บุคลากร สถานที่ นโยบาย และความคิดสร้างสรรค์

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

ไม่มีความคิดเห็น: