วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไฟเขียวปรับเกณฑ์คัด 'รอง - ผอ.' คงสิทธิบัญชีเขต - ไม่บังคับเลือกโรงเรียน

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีที่นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาการปรับแก้หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ และผู้อำนวยการสถานศึกษาใหม่ เพื่อไม่ให้ผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ถูกตัดสิทธิหากไม่สามารถเลือกบรรจุแต่งตั้งในโรงเรียนที่เลือกไว้ได้ ว่า เรื่องนี้เคยพูดคุยกันในที่ประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ผ่านๆ มาว่าการดำเนินการสรรหาในครั้งหน้า จะให้ความอิสระในการเลือกบรรจุและแต่งตั้งลงในโรงเรียนมากขึ้น ไม่บังคับให้เลือก และหากโรงเรียนอื่นๆ ที่ได้เลือกไว้ตอนสมัครสอบแข่งขัน มีผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ในลำดับที่ดีกว่าเลือกไปหมดแล้ว จะไม่บังคับให้เลือกโรงเรียนอื่นที่เหลือเหมือนในครั้งนี้ หากใครต้องการรอเลือกบรรจุลงโรงเรียนในรอบถัดไป ก็จะไม่ตัดสิทธิการขึ้นบัญชีในระดับเขตพื้นที่การศึกษา และบัญชีรวมของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเรื่องนี้ที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้หารือกันไว้แล้ว แต่ต้องไปทำหลักเกณฑ์ และประกาศกันต่อไป

"กรณีของผู้ที่สอบขึ้นบัญชีไว้ แต่ไม่ยอมเลือกลงโรงเรียน ซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้าราชการครูฯ ในปัจจุบัน กำหนดให้ตัดสิทธินั้น คงต้องนำไปหารือในที่ประชุม ก.ค.ศ.เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงผลการหารือ ยังไม่ได้เป็นมติออกมา นอกจากนี้ ที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้พูดคุยกันว่าควรจะต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้าราชการครูฯ ให้ดีขึ้น เพราะเมื่อจะให้สิทธิ และให้โอกาสในการเลือกโรงเรียนที่จะบรรจุแล้ว ก็ควรจะให้สิทธิ ผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ ส่วนการสละสิทธิไม่ขอเลือกการบรรจุในครั้งแรก 724 ตำแหน่งนั้น ผมได้รับรายงานข้อมูลว่ามียอดสละสิทธิไม่เยอะ ไม่ถึง 10 คน" นายชินภัทรกล่าว

นายชินภัทรกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าในการประกาศผลการสอบเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูฯ ในตำแหน่งครูผู้ช่วยของ สพฐ.ซึ่งได้จัดสอบไปเมื่อวันที่ 23-24 มิถุนายน ที่ผ่านมา และจะประกาศผลสอบในวันที่ 30 มิถุนายน แต่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตที่ดูแลการออกข้อสอบ และประมวลผลสอบ ได้ขอเลื่อนการประกาศผลออกไปนั้น ล่าสุดการประกาศผลการสอบจะเป็นวันที่ 9 กรกฎาคม โดยในวันที่ 6 กรกฎาคม สพฐ.จะประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 78 เขต เพื่อซักซ้อมขั้นตอนการรับผลคะแนน และการประกาศผลการสอบ

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน


สพฐ.ผุดโรงเรียนดีศรีตำบลแก้เด็กขาดศีลธรรม - จริยธรรม

 สพฐ. ผุดโครงการโรงเรียนดีศรีตำบล 6,500 โรงเรียนทั่วประเทศ เชื่อมโยงสถาบันศาสนากับโรงเรียน แก้เด็กขาดคุณธรรม-จริยธรรม จนแสดงออกทางพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในปัจจุบัน

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีภาพหลุดหรือคลิปฉาวของนักเรียนออกมาแพร่หลายในโซเชียลเน็ตเวิร์คจำนวนมากนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องยอมรับว่าการเรียนการสอนวิชาศีลธรรมในโรงเรียนอาจยังไม่เข้มข้นและน้อยเกินไป จึงส่งผลให้นักเรียนขาดคุณธรรมจริยธรรมภายในใจจนนำไปสู่การแสดงออกทางพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยเรื่องดังกล่าวอยากให้มองว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันรับผิดชอบและสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวินัย ศีลธรรม และการแสดงออกทางพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนที่เกิดขึ้น นับเป็นตัวบ่งบอกว่าสังคมกำลังอ่อนแอ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะโยนความผิดให้โรงเรียนทั้ง หมด เรื่องนี้มาจากองค์ประกอบหลายอย่างที่สังคมต้องช่วยกันดูแล

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อ ว่า ทั้งนี้ สพฐ. ได้ดำเนินการจัดทำโครงการโรงเรียนดีประจำตำบล หรือโรงเรียนดีศรีตำบล 6,500 โรง โดยมีรูปแบบการดำเนินการที่เชื่อมโยงสถาบันศาสนาเข้ากับโรงเรียน ซึ่งจะเริ่มต้นพัฒนาบุคลากรฝ่ายผู้บริหาร ตัวแทนครู ร่วมกับตัวแทนองค์การบริหารส่วนตำบลที่จะสนับ สนุนในการนำผู้นำศาสนาเข้ามาช่วยฝึกอบรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้ หลังจากนั้นจะมีการขยายผลไปยังครูผู้สอนทุกคน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนคุณธรรมและจริยธรรมไปสู่ผู้เรียนอย่างเข้มข้นต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขยายผลไปยังโรงเรียนในเมืองให้ได้ปฏิบัติอีกด้วย


ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น: