วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คอลัมน์: สถานี ก.ค.ศ.: การได้รับเงินเดือนของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา

ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ.
          พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 44 วรรคสอง กำหนดว่า "ผู้ใดจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใด วิทยฐานะใด จะได้รับเงินเดือนอย่างใด ตามมาตรา 31 ให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยให้ได้รับเงินเดือนในขั้นต่ำของอันดับ ในกรณีที่จะให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ." ซึ่งได้มีการออกกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ พ.ศ.2553 ไว้เดิม ต่อมาได้มีการออกพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ได้เปลี่ยนโครงสร้างระบบเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากเดิมที่กำหนดไว้เป็นระบบขั้นเงินเดือนไปเป็นระบบเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง และ ก.ค.ศ.ได้มีมติกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปรับเงินเดือนเข้าสู่อัตราในบัญชีเงินเดือนชั่วคราวของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเข้าสู่บัญชีท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 จึงมีผลทำให้อัตราเงินเดือนไม่ตรงกับตารางเปรียบเทียบแนบท้ายกฎ ก.ค.ศ. กระทรวงศึกษาธิการจึงเสนอร่างกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำหรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี


          บัดนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 ได้มีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำหรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ซึ่งจะมีผลให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับขวัญ กำลังใจ และสิทธิประโยชน์อย่างเป็นธรรม เสมอภาคกันยิ่งขึ้น ในประการสำคัญ ดังนี้


          1.ครูผู้ช่วยเมื่อผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มแล้ว ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู ให้ได้รับเงินเดือนในอันดับ คศ.1 ตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดยไม่ต้องใช้ตารางเทียบขั้นเงินเดือนเหมือนเดิม


          2.กรณีครูผู้ช่วย เมื่อได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับครูผู้ช่วยแล้ว ให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของอันดับครูผู้ช่วยได้ โดยให้ไปอาศัยรับเงินเดือนอันดับ คศ.1 ในขั้นหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม รวมทั้งกรณีผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ (วุฒิปริญญาตรี 15,000 บาท) ตัวอย่างเช่น ข้าราชการครูวุฒิปริญญาเอก เมื่อเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับครูผู้ช่วยแล้ว ซึ่งปัจจุบันได้แก่อัตรา 17,690 บาท เมื่อมีคำสั่งเลื่อนเงินเดือนก็ไปอาศัยเบิกอันดับ คศ.1 อัตรา 17,910 บาท และเลื่อนสูงต่อไปได้

          3.ครูที่เงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับ (ตัน) คศ.2 คศ.3 หรือ คศ.4 แล้วแต่กรณี จะได้รับการเลื่อนเงินเดือนต่อไปได้โดยให้ไปอาศัยรับเงินเดือนในอันดับถัดไปได้อีกหนึ่งอันดับ ตัวอย่างเช่น ข้าราชการครูที่เงินเดือนตันอันดับ คศ.3 ที่อัตรา 53,080 บาทแล้ว เมื่อกฎ ก.ค.ศ.นี้มีผลใช้บังคับจะได้เลื่อนเงินเดือนสูงขึ้นต่อไปได้อีก โดยอาศัยเบิกในอันดับ คศ.4 อัตรา 53,820 บาท และเลื่อนต่อไปได้จนถึงขั้นสูงของอันดับ คศ.4 คืออัตรา 62,760 บาท เป็นต้น

          ขั้นตอนต่อจากนี้ไปทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะตรวจพิจารณาถ้อยคำ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อใช้บังคับ นับเป็นความมุ่งมั่นของสำนักงาน ก.ค.ศ.ในอันที่จะดำเนินการพัฒนาระบบค่าตอบแทนเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศต่อไป

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

'ศธ.'ออกประกาศคุมน.ร.-น.ศ.สูบบุหรี่
          นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ลงนามในประกาศ ศธ.ว่าด้วยการควบคุมการสูบบุหรี่ในส่วนราชการและสถานศึกษาและสถาบันอุดมศึกษาแล้ว เพื่อควบคุมการสูบบุหรี่และลดปัญหาทางสุขภาพที่เป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและข้าราชการ ซึ่งในประกาศดังกล่าวได้กำหนดแนวปฏิบัติเอาไว้ โดยห้ามมิให้หน่วยงานราชการในสังกัด ศธ.สถานศึกษาและสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมหรือรับการสนับสนุนใดๆ จากหน่วยงานหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ และให้ติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ในส่วนราชการ สถานศึกษาและสถาบันอุดมศึกษา รวมทั้งการกำชับนักเรียน นักศึกษาห้ามสูบบุรี่ในสถานศึกษา ส่วนผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครู ต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีโดยไม่สูบบุหรี่ในสถานศึกษา

          รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวต่อว่า ประกาศ ศธ.ว่าด้วยการควบคุมเป็นแนวปฏิบัติที่กำหนดขึ้นไม่ได้มีบทลงโทษเอาไว้ แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องนำไปดำเนินการและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อช่วยกันลดการสูบบุหรี่ ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีหน่วยงานต่างๆ ได้มาช่วยกันรณรงค์การไม่สูบบุหรี่แล้ว แต่ในสถานศึกษายังไม่ได้รณรงค์การไม่สูบบุหรี่อย่างจริงจัง หรือหลายๆ โรงเรียนไม่มีการรณรงค์เรื่องนี้ การติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ก็ไม่มี ดังนั้น การที่มีประกาศ ศธ.ดังกล่าวออกมาเชื่อว่าจะทำให้มีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

ไม่มีความคิดเห็น: