เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาฯ รอง/ผอ.สถานศึกษา
๑)
ให้ผู้ผ่านเกณฑ์การตัดสินไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๐ ขึ้นบัญชีไว้ทุกคน มีอายุการขึ้นบัญชีไม่เกิน ๒ ปี
นับจากวันที่ประกาศขึ้นบัญชี แยกเป็น ๒ กลุ่มคือ
กลุ่มทั่วไปและกลุ่มประสบการณ์
๒)
กำหนดให้การบรรจุและแต่งตั้ง กรณีบัญชีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหมดบัญชีก่อน
หรือไม่มีผู้สมัคร หรือไม่มีผู้ขึ้นบัญชี
ก็ให้ใช้บัญชีกลุ่มที่เหลือในการบรรจุและแต่งตั้งได้
๓)
การบรรจุและแต่งตั้งครั้งแรก หากมีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถมารายงานตัวได้
ให้คงขึ้นบัญชีไว้ในลำดับเดิมได้
และกรณีไม่มีสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาที่ระบุไว้ในใบสมัคร
หากไม่สมัครใจหรือขอสละสิทธิ์การบรรจุและแต่งตั้ง ให้คงการขึ้นบัญชีไว้ในลำดับเดิม
ทั้งบัญชีรวมสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
และบัญชีเขตพื้นที่การศึกษา
๔)
การบรรจุและแต่งตั้งครั้งต่อไปจากบัญชีรวม สพฐ. เมื่อ
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาได้ใช้บัญชีเขตพื้นที่การศึกษาทุกกลุ่มหมดแล้ว
การขอใช้บัญชีรวมของ สพฐ.กลุ่มใด
ให้พิจารณาจากการสิ้นสุดการใช้บัญชีว่าสิ้นสุดที่กลุ่มใด
ให้ไปเริ่มใช้บัญชีของอีกกลุ่มสลับกันไป
๕) (ร่าง)
หลักเกณฑ์ดังกล่าว
ให้ใช้สำหรับการสรรหาผู้บริหารสถานศึกษาครั้งต่อไป
รมว.ศธ.กล่าวเพิ่มเติมถึงข้อเรียกร้องของ "ตัวแทนกลุ่มผู้สอบผ่านร้อยละ
๖๐" ซึ่งได้เดินทางมายื่นข้อเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ค.ศ.ก่อนการประชุมในครั้งนี้ ๒
ประเด็น คือ ๑) ขอสิทธิ์การบรรจุผู้สอบผ่านร้อยละ ๖๐
ให้ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีเพื่อรอการบรรจุและแต่งตั้งปีงบประมาณ
๒๕๕๕-๒๕๕๖
และ ๒)
ขอสิทธิ์ผู้สอบผ่านร้อยละ ๖๐
เพื่อเข้าอบรมแต่งตั้งและพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฯ ว่า แม้ที่ประชุมจะเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์ดังกล่าว
แต่ให้ใช้สำหรับการสรรหาในครั้งต่อไป หากเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ซึ่งอยู่ในระหว่างกระบวนการสรรหาครั้งนี้
อาจจะส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง
ซึ่งจะกระทบต่อการสรรหาทั้งระบบได้
-
เห็นชอบ
(ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาฯ รอง ผอ.สช.จังหวัด/ผอ.สช.จังหวัด/ผอ.สช.อำเภอ ในเขตพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้
-
เห็นชอบร่างระเบียบ ก.ค.ศ.เงินเพิ่มตำแหน่งเหตุพิเศษของครูการศึกษาพิเศษและครูการศึกษาพิเศษ กรณีเรียนร่วม
ที่ประชุมเห็นชอบร่างระเบียบ
ก.ค.ศ.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่ครูการศึกษาพิเศษและครูการศึกษาพิเศษ
กรณีเรียนร่วม พ.ศ. .... โดยให้ปรับเพิ่มจากเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท เป็น ๒,๕๐๐
บาท
และเสนอกำหนดเงินเพิ่มพิเศษสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของครูสอนหลายชั้นเรียนในอัตรา
๒,๕๐๐ บาทด้วย
นอกจากนี้
ที่ประชุมได้พิจารณาเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. แต่ได้ขอให้
สพฐ.นำกลับไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่งด้วยความละเอียดรอบคอบในประเด็นต่างๆ เช่น
ขนาดของสถานศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เป็นต้น
ส่วนเกณฑ์การย้ายซึ่งได้เปิดให้ยื่นขอย้ายระหว่างวันที่ ๑-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๕
ให้ใช้เกณฑ์การย้ายเดิม
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี
1 ความคิดเห็น:
จริงแล้วร่างหลักเกณฑ์การสรรหาขึ้นดำรงตำแหน่ง ผอ.ร.ร.และรอง ผอ.ร.ร. ไม่ควรรีบเร่งออกมาใหม่ตอนนี้ เพิ่งดำเนินตามหลักเกณฑ์ใหม่เมื่อ ต้นปี 2555 ตาม ว.22 ก็ควรดำเนินการตามหลักเกณฑ์เดิมไปก่อนให้ครบ 2 ปี แล้วจึงประกาศหลักเกณฑ์ใหม่ หรือ เพราะวิ่งกันมาก รนกันมาก คนที่สอบผ่านเกณฑ์ 60% จริงก็สามารถประกาศผู้ผ่านการสรรหาเพิ่มได้อยู่แล้ว ลองไปอ่านหลักเกณฑ์ ก.ค.ศ. ข้อ 12-13 และ ประกาศของสพฐ.26 มี.ค. 55 ข้อ 9 วรรค 2 คนที่สอบผ่านก็มีโอกาสได้รับประกาศเป็นผู้ผ่านการสรรหาบัญชีใหม่ได้ เพียงแต่ถ้าประกาศหลักเกณฑ์ใหม่เร็วเท่าใด หลักเกณฑ์เดิมก็เป็นอันยกเลิก ฉะนั้น พวกที่อยากเป็นมาก ดิ้นมากอาจซวยเอง กลับไปทำบทบาทหน้าที่ของตนเองในปัจจุบันให้ดีที่สุดซะ แล้วขอร้องให้ ก.ค.ศ. ไม่ต้องเร่งออกหลักเกณฑ์ใหม่ พูดกับเขาเพราะๆ นะ นะน้อง ท่านรัฐมนตรีท่านก็พยามทำให้คนเก่งคนดีมีโอกาสได้มาพัฒนาประเทศชาติแล้วละนะ มันไม่ถูกใจทุกคนหรอกนะ
ครูไทยเพื่อชาติ
แสดงความคิดเห็น