วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เลือกปธ.บอร์ดคุรุสภาส่อยืดเยื้อ

           เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายดิเรก พรสีมา อดีตประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยว่า หลังคณะกรรมการคุรุสภาได้ครบวาระตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา และขณะนี้ยังไม่มีคณะกรรมการคุรุสภาชุดใหม่ เนื่องจากต้องรอการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน และประธานคณะกรรมการคุรุสภานั้น ส่วนตัวเห็นว่าความล่าช้าดังกล่าวทำให้เสียเวลา เพราะว่างานสำคัญที่ค้างอยู่คือร่างข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. ... ที่จะต้องให้สถาบันการผลิตครูนำไปใช้เพื่อพัฒนา หรือกำหนดหลักสูตรการผลิตครูของคณะคุรุศาสตร์/ ศึกษาศาสตร์ในระดับปริญญาตรีใหม่ เนื่องจากตามข้อบังคับของคุรุสภา กำหนดให้การรับรองมาตรฐานวิชาชีพครูแก่สถาบันการผลิตครูเพียง 5 ปีเท่านั้น ซึ่งมาตรฐานวิชาชีพครูฉบับแรกที่ประกาศออกมาในปี 2548 ขณะนี้ครบ 5 ปี และจะต้องใช้มาตรฐานวิชาชีพครูฉบับใหม่ โดยคณะกรรมการคุรุสภาได้จัดทำร่างข้อบังคับคุรุสภา ดังกล่าวเสร็จแล้วเมื่อปี 2554 และได้นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณา แต่มีความเห็นให้นำมาปรับในบางมาตรฐาน ดังนั้น กรณีที่ยังไม่มีคณะกรรมการคุรุสภาชุดใหม่ ทำให้ยังไม่สามารถปรับปรุงร่างมาตรฐานวิชาชีพได้ และจะล่าช้าไปเรื่อยๆ
          "จนถึงขณะนี้ มีแนวโน้มว่าร่างข้อบังคับ คุรุสภาใหม่จะไม่สามารถใช้ได้ทันในปี 2556 และสถาบันการผลิตครูยังต้องใช้มาตรฐานวิชาชีพครูของปี 2548 ไปก่อน และยังไม่สามารถปรับปรุงหลักสูตรใหม่ให้สอดคล้องกับร่างมาตรฐานวิชาชีพใหม่ เพราะเวลานี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีคณะกรรมการคุรุสภาชุดใหม่เมื่อใด อย่างไรก็ตาม สำหรับร่างมาตรฐานวิชาชีพที่ปรับปรุงนั้น เนื้อหาอาจไม่ได้ปรับมากนัก แต่ได้ปรับในส่วนของมาตรฐานการบริการจัดการห้องเรียน ที่ได้ปรับหลักสูตรต่างจากเดิมมาก เช่น ครูจะมีวิธีการแก้ปัญหาในห้องเรียนอย่างไร หากนักเรียนไม่สนใจเรียน มีปัญหาการเรียน เป็นต้น แต่มาตรฐานวิชาชีพเก่าจะเน้นภาวะผู้นำ ทฤษฎีการบริหารมากกว่า" นายดิเรกกล่าว
           แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศธ.คนหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการคุรุสภา จำนวน 31 คนแล้ว ประกอบด้วย กรรมการโดยตำแหน่ง 8 คน อาทิ ปลัด ศธ., เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นต้น กรรมการจากการผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และกรรมการจากผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ หรือการศึกษา จำนวน 23 คน ซึ่งขณะนี้ยังเหลือการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน และประธานคณะกรรมการคุรุสภา โดยในส่วนของประธานคณะกรรมการคุรุสภานั้นยังมีปัญหา เนื่องจากจะต้องพิจารณารายชื่อที่จะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นผู้แต่งตั้ง 1 คน จากรายชื่อ 4 คนที่เสนอให้ ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการสรรหา ที่มีนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ.เป็นประธาน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็ประชุมไม่ได้เพราะไม่ครบองค์ประชุม เนื่องจากกรรมการในส่วนของผู้แทนครู จำนวน 6 คน เข้าร่วมประชุมไม่ครบ จึงทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไปอีก ซึ่งมีแนวโน้มว่าเรื่องนี้จะยืดเยื้อออกไปอีก เพราะมีความเห็นที่ต่างกันระหว่างกรรมการในส่วนของผู้แทนครู 6 คน กับกรรมการโดยตำแหน่ง 5 คน ในการเสนอผู้สมัครสรรหาเป็นประธานคณะกรรมการคุรุสภาที่ไม่ได้มาสัมภาษณ์ ให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณาแต่งตั้ง ซึ่งผู้แทนครูเห็นว่าสามารถเสนอรายชื่อผู้ไม่มาสัมภาษณ์ได้


ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน



                           ยันไม่ลอยแพครูอัตรจ้าง 8 พันคน
กระทรวงศึกษายืนยันไม่ลอยแพครูอัตราจ้างกว่า 8,000 คนที่เคยออกมาเคลื่อนไหวให้ต่อสัญญาจ้าง

           นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวภายหลังเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานมหกรรมทางวิชาการทางการสุดยอดมัธยมบุรีรัมย์ก้าวนำสู่สากล ที่โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ว่า ครูอัตราจ้างงบไทยเข้มแข็ง 2 โครงการ มีสัญญาจ้างครั้งละ 3 ปีในโครงการยกระดับครูทั้งระบบ (Sp2)และโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ - วิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 8,000 คนที่เคยร่วมกันออกมารวมตัวเคลื่อนไหวยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ร้องขอให้ช่วยเหลือและต่อสัญญาจ้างครูอัตราจ้างทั้งสองโครงการ ที่หมดสัญญาจ้างในเดือนก.ย. หรือสิ้นปีงบประมาณที่ผ่านมา ต่อกระทรวงศึกษาที่กรุงเทพมหานครหลายครั้งเพราะเกรงว่ากระทรวงฯจะเลิกจ้างลอยแพทำให้ตกงานได้รับความเดือดร้อนนั้นซึ่งกรณีดังกล่าวทางกระทรวงฯยืนยันจะไม่ทอดทิ้งตามที่ครูอัตราจ้างหวั่นวิตกจะมีการดูแลต่อไป
           นางเบญจลักษณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ครูอัตราจ้างจำนวนดังกล่าว บางส่วนอยู่ในระหว่างการประเมินคุณภาพและผลงานเข้าเพื่อพิจารณาบรรจุเข้ารับราชการครูส่วนการบรรจุจะได้มากหรือน้อยเพียงใดนั้นยังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลของครูเกษียณอายุและครูที่สอบบรรจุเข้ามารับราชการครูใหม่พร้อมเชื่อว่าครูอัตราจ้างทุกคนเป็นกำลังในการทำงานร่วมในการพัฒนาการศึกษาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาได้เป็นอย่างดีมั่นใจว่าจะไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน

ที่มา: http://www.posttoday.com

ไม่มีความคิดเห็น: