วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มติ ครม. 18 ธันวาคม ๒๕๕๕

เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) ระยะที่ 2

ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการ โครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) ระยะที่ 2 (พ.ศ.2551–2566) จำนวน 4 รุ่น วงเงิน 3,872.6100 ล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ เนื่องจากโครงการที่เน้นการเพิ่มกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูง ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการเร่งสร้างนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และครูวิทยาศาสตร์ให้เพียงพอกับความต้องการของประเทศ  เพิ่มจำนวนบุคลากรทางด้านวิจัยพัฒนาเพิ่มขึ้นเป็น 15 คนต่อประชากร 10,000 คน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555–2559) และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ขยายเวลาการให้ทุนประเภทระดับปริญญาตรี–โท–เอก ต่อเนื่องเพิ่มอีก 2 รุ่น (รุ่นปี 2556–2557) รุ่นละ 200 ทุน รวม 400 ทุน รวมเป็น 6 รุ่น เพื่อให้ได้เป้าหมายภาพรวม 1,600 คน โดยปีงบประมาณ พ.ศ.2552–2556 สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณให้แล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,026.3215 ล้านบาท  สำหรับงบประมาณส่วนที่เหลืออีก จำนวน 2,846.2885 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียนทุนเดิมต่อเนื่องและนักเรียนทุนที่จะรับใหม่ในปี พ.ศ.2557–2568 นั้น ให้ สกอ.เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป พร้อมทั้งให้จัดทำกลไกและเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพให้แก่ผู้รับทุนให้เกิดความชัดเจน เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจแก่ผู้รับทุนปัจจุบันดำเนินการศึกษาอย่างต่อเนื่องและผู้รับทุนใหม่ที่จะเข้าร่วมโครงการ

สาระสำคัญของเรื่อง โครงการดังกล่าวเป็นโครงการสร้างฐานกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เน้นคุณภาพ เป็นการลงทุนทางการศึกษาและพัฒนาคนด้านวิทยาศาสตร์ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ ซึ่งให้ผลในระยะยาวและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ทัดเทียมอารยประเทศ และเพื่อเป็นการขยายโอกาสให้นักเรียนที่มีศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ได้มีโอกาสเข้าศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง โดยผู้รับทุนโครงการฯ ทุกคนต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก และผู้ที่รับทุนต้องไม่เป็นผู้ทำงานอยู่ในสังกัดทั้งภาครัฐและเอกชน และอยู่ในระหว่างการลาศึกษาต่อ เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนบุคลากรระดับสูงด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผลการดำเนินการ สรุปได้ดังนี้

ผลการคัดเลือกผู้รับทุนเข้าร่วมโครงการฯ สามารถคัดเลือกได้จำนวน 1,189 คน จากเป้าหมาย 1,600 คน คิดเป็น ร้อยละ 74.31 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย ดังนี้ 1) ทุนระดับปริญญาตรี-โท-เอก ต่อเนื่อง สามารถคัดเลือกได้จำนวน 774 คน จากเป้าหมาย 800 คน คิดเป็นร้อยละ 96.75 และ 2) ทุนระดับปริญญาโท-เอก ต่อเนื่อง และปริญญาเอก สามารถคัดเลือกได้จำนวน 415 คน จากเป้าหมาย 800 คน คิดเป็นร้อยละ 51.87

จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากโครงการ ขณะนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก จำนวน 6 คน แบ่งเป็น สาขาวิชาฟิสิกส์ จำนวน 5 คน และสาขาคณิตศาสตร์ จำนวน 1 คน

จำนวนนักศึกษาทุนโครงการฯ ที่ได้รับทุนการศึกษา/ทุนวิจัย เพื่อไปทำวิจัยระยะสั้นในต่างประเทศ รวมจำนวน 10 คน แบ่งเป็นทุนวิจัยระดับปริญญาตรี 4 คน ระดับปริญญาเอก 6 คน

มีการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรต่างๆ เพื่อพัฒนานิสิต/นักศึกษาทุนโครงการ ให้เป็นอาจารย์ นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ที่ดีและมีคุณภาพมาตรฐานได้ในอนาคต ได้แก่ การจัดค่ายวิทยาศาสตร์ และโครงการพัฒนาศักยภาพการวิจัยสำหรับนิสิต/นักศึกษาโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (SAST Research Development Project)
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการบริหารโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) เสนอขอขยายระยะเวลาการให้ทุนประเภทระดับปริญญาตรี-โท-เอก ต่อเนื่อง เพิ่มอีก 2 รุ่น (รุ่นปี 2556-2557) รุ่นละ 200 ทุน รวมจำนวน 400 ทุน เพื่อให้ได้เป้าหมายภาพรวม 1,600 คน และใช้กรอบวงเงินงบประมาณเดิม

เห็นชอบโครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2556–2560 จำนวน 13,819 คน
ครม.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทย พ.ศ.2556–2560 เพื่อผลิตแพทย์เพิ่มให้เพียงพอต่อความต้องการด้านบริการการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ ลดปัญหาการขาดแคลนแพทย์และแก้ปัญหาการกระจายแพทย์ตามภูมิภาค โดยมีเป้าหมายการผลิตแพทย์เพิ่ม 5 รุ่น จำนวน 9,039 คน ประกอบด้วยโครงการผลิตแพทย์เพิ่ม โดย ศธ.จำนวน 4,038 คน และโครงการผลิตแพทย์ชนบทเพิ่ม ภายใต้ความร่วมมือของ ศธ. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวน 5,001 คน จากการผลิตแพทย์ตามแผนปกติที่มีอยู่เดิม 4,780 คน รวมเป็นผลิตแพทย์ทั้งสิ้น 13,819 คน ตามที่ ศธ.เสนอ
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ศธ.ได้รับการจัดสรรงบประมาณเฉพาะงบประมาณดำเนินการสำหรับโครงการดังกล่าวแล้วจำนวน 562 คน เป็นเงิน 30,500,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินการที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ หรือได้รับการจัดสรรแล้วแต่ยังไม่เพียงพอ ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 หรือใช้เงินเหลือจ่ายจากรายการที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้วมาดำเนินการ โดยขอทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ ส่วนงบลงทุนให้หน่วยงานขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามแผนเป้าหมายการผลิตแพทย์เพิ่มเติมตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป โดยคำนึงถึงการใช้อาคารสถานที่และครุภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุดก่อน

--------------------------------------------------------------------------------

รับทราบรายงานการบริหารจัดการและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกของไทย

ครม.รับทราบสรุปรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะตามรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา เรื่อง การบริหารจัดการและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกของไทย ดังนี้

กรมประชาสัมพันธ์ เร่งรัดดำเนินการประชาสัมพันธ์และปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องของสาธารณชนเกี่ยวกับมรดกไทยมรดกโลก เพื่อให้เกิดความร่วมใจร่วมแรงในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่มรดกโลกในระดับพื้นที่ โดยจะร่วมบูรณาการการจัดทำแผนการประชาสัมพันธ์กับกรมศิลปากรและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดย บมจ.ทีโอที ได้ดำเนินการติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย (WiFi) โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จำนวน 1 จุด ณ บึงพระรามในบริเวณเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เมื่อเดือนมกราคม 2555 ซึ่งปัจจุบันเครือข่ายการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเขตพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีความพร้อมสมบูรณ์แล้ว

กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรได้มอบหมายให้สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัยใช้แผนแม่บทอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร ซึ่งเป็นแผนแม่บทระดับภาคครอบคลุมระยะยาวเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2550–2559 และจะได้มีการทบทวนแผนแม่บทต่อไปในอนาคต

กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการเสริมความรู้แหล่งมรดกโลกของไทย ดังนี้
1) บรรจุความรู้เรื่องแหล่งโบราณสถานที่เป็นมรดกโลกของประเทศไทย ในหลักสูตรกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (สาระประวัติศาสตร์) ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
2) อบรมครูสอนประวัติศาสตร์ เพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่องมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทยแก่ผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง
3) จัดหลักสูตรท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรงและมีส่วนร่วมกิจกรรมคุ้มครองแหล่งโบราณสถานในท้องถิ่น
4) จัดโครงการมัคคุเทศก์น้อย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รวมทั้งโครงสร้างร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างเยาวชนด้วยการศึกษาแหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์ร่วมกัน

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี


ครูเฮขึ้นเงินเดือน 1 ขั้น รับปีใหม่
โพสต์ทูเดย์ - ครูเฮรับปีใหม่ ครม.อนุมัติปรับขึ้นเงินเดือน 1 ขั้น

นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติร่างกฎสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ซึ่งจะส่งผลให้ข้าราชการครูได้รับเงินเดือนเพิ่ม 1 ขั้น

ทั้งนี้ สาระสำคัญ คือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับเงินเดือนเดิมสามารถรับเงินเดือนในอันดับถัดไปได้อีก 1 อันดับ ประกอบด้วย ผู้ที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงอันดับ คศ.2 จะสามารถรับเงินเดือนของอันดับ คศ.3 ส่วนผู้ที่ได้รับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับ คศ.3 จะขยับไปรับเงินเดือนของอันดับ คศ.4 ผู้ที่ได้รับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับ คศ.4 จะขยับไปรับเงินเดือนในอันดับ คศ.5

ขณะที่ข้าราชการครูที่ไม่มีขั้นหรืออัตราเงินเดือนที่ได้รับอยู่เดิม จะได้รับขั้นหรืออัตราเงินเดือนใกล้เคียงในจำนวนที่สูงกว่า โดยมีผลย้อนหลังไปก่อนวันที่ 1 เม.ย. 2554 โดยทาง ก.ค.ศ. เตรียมเสนอนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศธ.ลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ครู

ด้านชมรมครูอัตราจ้างตามโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 หรือเอสพี 2 ร้องเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไม่สามารถสมัครสอบบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู ซึ่งเปิดรับสมัครวันที่ 6-12 ธ.ค.ที่ผ่านมา และกำหนดสอบในวันที่13 ม.ค. 2556

นายอมรรัตน์ ทองสาดี ประธานชมรมครูอัตราจ้างฯ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ทำสัญญาจ้างครูกลุ่มนี้ปีต่อปี แต่กลับไม่สามารถสมัครได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นครูอัตราจ้างตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดย สพฐ. ให้เหตุผลว่างบประมาณที่จ้างครูกลุ่มนี้เป็นเงินนอกงบประมาณที่กู้มาจากต่างประเทศ

"ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ช่วยเหลือครูกลุ่มนี้ให้มีสิทธิสมัครและเข้าสอบบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการได้ รวมถึงขอให้พิจารณาให้ครูกลุ่มนี้ได้รับค่าครองชีพ 1.5 หมื่นบาทตามนโยบายรัฐบาล โดยให้ได้รับเงินย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เหมือนกับลูกจ้างโครงการอื่นๆและเมื่อปฏิบัติการสอนครบ 3 ปี ได้บรรจุเข้าสู่ตำแหน่งพนักงานราชการด้วย" นายอมรรัตน์กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

ไม่มีความคิดเห็น: