วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ขึ้นบัญชีอีก 2 ม.เถื่อนจากสหรัฐ 'กำจร'แนะถูกหลอกแจ้ง'สกอ.-ตร.'

นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ตั้งศูนย์ปราบปรามวุฒิเถื่อนนั้น ขณะนี้ สกอ.ได้รับข้อมูล และตรวจสอบเรียบร้อยแล้วว่ามีมหาวิทยาลัยต่างประเทศอีก 2 แห่ง ที่ไม่ได้รับการรับรองวิทยฐานะจากหน่วยงานที่รับรองวิทยฐานะของประเทศต่างๆ หรือไม่ได้จดทะเบียนกับ ศธ.และ สกอ.จะไม่รับรองวุฒิการศึกษา ได้แก่ Charisma University สหรัฐอเมริกา และ University of Interdisciplinary Studies สหรัฐอเมริกา อีกทั้ง สกอ.ได้นำรายชื่อหน่วยงานดังกล่าวประกาศบนเว็บไซต์ของ สกอ. www.mua.go.th เรียบร้อยแล้ว จนถึงขณะนี้มีรายชื่อที่แอบอ้างว่าเป็นสถาบันการศึกษา และ สกอ.ไม่รับรองวุฒิบนเว็บไซต์ 14 แห่ง ดังนั้น ขอให้ทุกคนที่สงสัยว่าสถาบันที่ตัวเองเรียนจะได้รับการรับรองจาก สกอ.หรือไม่ เข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ หรือหากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และรู้ว่าตัวเองผิดพลาด ให้รีบไปติดต่อยังหน่วยงานที่ตัวเองสมัครเรียนไว้ เพื่อขอเงินคืน และให้มาติดต่อ สกอ.เพื่อจะแจ้งความดำเนินคดีให้
          "นอกจาก สกอ.จะนำรายชื่อสถาบันที่แอบอ้างจัดการศึกษาขึ้นเว็บไซต์แล้ว ขณะที้ผมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าสำนักมาตรฐานประเมินผลอุดมศึกษา สกอ.รวบรวมรายชื่อสถาบันอุดมศึกษาของไทยที่สังกัด ศธ.และนอกสังกัดที่รวบรวมได้ ขึ้นเว็บไซต์ เพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครอง ประชาชนทั่วไปที่สนใจ เข้ามาตรวจสอบได้ว่ามีสถานศึกษาอะไรบ้างที่อยู่ในไทย และ สกอ.รับรองแล้ว เพื่อจะได้ไม่ถูกหลอก ทั้งนี้ หากข้อมูลเสร็จแล้ว จะรีบขึ้นเว็บไซต์ให้เร็วที่สุด" นพ.กำจรกล่าว
          สำหรับรายชื่อสถาบันอุดมศึกษาที่ สกอ.ไม่รับรองแบ่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 สถานศึกษาต่างประเทศที่มาร่วมจัดการศึกษากับสถาบันอุดมศึกษาไทย แต่ไม่ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ได้แก่ 1.Adamson University สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ 2.California Yuin University สหรัฐอเมริกา 3.International Academy of Management and Economics (IAME) สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ 4. Victoria University สมาพันธรัฐสวิส และกลุ่มที่ 2 สถานศึกษาที่ไม่ได้รับการรับรองจากประเทศที่จัดตั้งสถาบัน ไม่สามารถสืบค้นต้นสังกัด/ไม่มีตัวตน ชื่อสถาบัน ประเทศ สถานภาพ ได้แก่ 1.Charisma University สหรัฐอเมริกา 2.Darul Uloom Nadwatul University สาธารณรัฐอินเดีย 3.Institut Francais de la Mode สาธารณรัฐฝรั่งเศส 4.Intercultural Open University ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ 5.Islamic University of South Africa สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ 6.Lacrosse University สหรัฐอเมริกา 7.Rochville University สหรัฐอเมริกา 8.Spicer Memorial College สาธารณรัฐอินเดีย 9.University of Interdisciplinary Studies สหรัฐอเมริกา และ 10.World Class University (มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก) ไทย
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

สร้างความตระหนักสู่คุณภาพการศึกษา

          ทั่วถิ่นไทยก้าวไกลการศึกษา
            ศากุน ศิริพานิช  นักประชาสัมพันธ์ สพป.บุรีรัมย์ เขต
 1
          ในปีการศึกษา 2555 โรงเรียนเขตการทางสงเคราะห์ 5 ไตรคามสิทธิศิลป์ สามารถยกระดับคุณภาพการเรียน จนเป็นโรงเรียนที่มีการพัฒนาวิชาการระดับชาติ (O-NET) สูงเป็นอันดับ 1 ในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 และ มีผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของนักเรียนทั้ง 3 ด้าน สูงกว่าระดับประเทศ
          นายสมดุลย์ ดีรัมย์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า โรงเรียนนี้เคยเป็นโรงเรียนประถมศึกษาประจำจังหวัดที่มีชื่อเสียงมานาน ทุกวันนี้นักเรียนส่วนใหญ่มาจากครอบครัวแถวชานเมืองซึ่งมีฐานะยากจน ผู้ปกครองมีปัญหาการดำรงชีพมาก สิ่งที่โรงเรียนต้องทำคือทำอย่างไรจะให้นักเรียนเหล่านี้ได้มีการศึกษาที่ดี สามารถนำความรู้ไปใช้ยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น
          จึงเริ่มจากการสร้างความตระหนักให้แก่ครูก่อน ว่าเรามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลนักเรียนทุกคนให้ได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ ให้อิสระครูจะสอนโดยวิธีใดก็ได้ให้นักเรียนได้พัฒนาความรู้ความคิดของตนเอง ในขณะเดียวกันก็สร้างความตระหนักแก่นักเรียนให้มีความรับผิดชอบหน้าที่ของตน ทำการบ้าน แบบฝึกหัด งานที่ครูมอบหมาย และจากเดิมที่นักเรียนจะทำข้อสอบโดยไม่อ่าน ไม่คิด ต้องให้นักเรียนเห็นความสำคัญในการทดสอบความรู้ ต้องอ่านและคิดให้ดีก่อนตอบแต่ละข้อ ซึ่งก็ได้ผลดีขึ้นระดับหนึ่ง
          ในปีการศึกษา 2555 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียน คะแนนเฉลี่ย 42.65 สูงกว่าระดับชาติและระดับเขตพื้นที่การศึกษา และเป็นโรงเรียนที่มีพัฒนาการสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2554 เพิ่มขึ้น 5.17 และการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน (NT) ชั้น ป.3 นักเรียนมีความสามารถสูงกว่าระดับประเทศทั้ง 3 ด้าน
          ซึ่งเมื่อทุกคนรู้และทำหน้าที่ของตนให้ดี ก็ย่อมส่งผล ต่อคุณภาพการศึกษาและคุณภาพชีวิตด้วย
ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod

'จาตุรนต์'ให้อำนาจผอ.สั่งปิดโรงเรียน

          กรุงเทพฯ :  นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ภายหลังที่รัฐบาล มีการประกาศพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในส่วนของสถานศึกษาได้หารือกับนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาโดยตลอด และกำชับให้สำนัก งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานประสานไปยังโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการประกาศ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย เขตพระนคร ดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยให้อำนาจผู้อำนวยการโรงเรียนพิจารณาตัดสินใจว่าจะเลื่อนเวลาเปิด-ปิดเรียนหรือไม่
          "ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางของนักเรียนและครู เช่น หากช่วงเวลา 08.00 น. การจราจรติดขัดมาก ให้เลื่อนเวลาเข้าเรียนออกไปเป็นช่วงสายแทน เป็นต้น ขณะเดียวกันหากเห็นว่าสถานการณ์เกิดความเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยของนักเรียน ให้เป็นดุลยพินิจของโรงเรียนปิดเรียนได้ทันที อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จึงขอให้โรงเรียนเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้

รับมือครูแห่เกษียณ-คนแก่พุ่ง-เด็กลด

          นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.วางแผนรองรับกรณีที่จะมีข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา เกษียณอายุราชการเป็นจำนวนมาก รวมทั้งแนวโน้มที่อัตราการเกิดของเด็กไทยจะลดลง นั้น ขณะนี้สำนักงาน ก.ค.ศ.กำลังรวบรวมข้อมูลข้าราชการครูฯ ที่จะเกษียณฯ ในช่วง 10 ปีนี้ เพื่อเสนอต่อนายจาตุรนต์ ในการประชุม ก.ค.ศ. วันที่ 15 สิงหาคมนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะมีส่วนในการวางแผน หรือ กำหนดนโยบายในการผลิตครู เพื่อรองรับครูที่จะเกษียณฯ ด้วย ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2556 จะเป็นปีสุดท้ายที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะได้คืนอัตราเกษียณฯครบ 100% และ ในปีงบฯ 2557 เป็นต้นไป จะได้อัตราเกษียณฯ คืนเพียง 20% เท่านั้น ซึ่งการจะเสนอขอคืนอัตราเกษียณฯ 100% จะต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ และต้องเสนอขอในภาพรวมของกระทรวง
          เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อมูลเบื้องต้น มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่จะครบเกษียณอายุฯ ในระยะเวลา 5 ปี ระหว่างปี 2556-2561 จำนวน 104,108 คน แยกเป็น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 99,890 คน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 3,320 คน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)  205 คน สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน (วชช.) 17 คน สถาบันการพลศึกษา 236 คน สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 129 คน ส่วนที่เหลือเป็นของหน่วยงานอื่น ๆ ใน ศธ.
          นางรัตนา กล่าวด้วยว่า เมื่อจำแนกตามสาขาวิชาเอกพบว่า ภาษาไทย เกษียณอายุราชการจำนวน 7,478 คน คณิตศาสตร์ 3,199 คน วิทยาศาสตร์ 8,673 คน  สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 25,239 คน สุขศึกษาและพลศึกษา 5,947 คน ศิลปะ 4,527 คน การงานอาชีพและเทคโนโลยี 6,017 คน ภาษาต่างประเทศ 3,808 คน และอื่น ๆ เช่น ดนตรี นาฏศิลป์ เกษตร 39,227 คน ทั้งนี้ ในการวางแผนรองรับนอกจากจะ
          ดูข้อมูลผู้ที่จะเกษียณอายุฯแล้วจะต้องดูในประเด็นอื่น ๆ ตามนโยบายที่รมว.ศึกษาธิการ มอบมาอีก 2 ประเด็น คือ ประชากรสูงอายุของไทยที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น และจำนวนประชากรในวัยเรียนที่ลดลงด้วย.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น: