วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

ผลการดำเนินงานด้านการศึกษาในรอบ 3 เดือน และทิศทางการดำเนินงานด้านการศึกษา

1. การดำเนินงานด้านการศึกษาช่วงที่ผ่านมาของรัฐบาล
จากการที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 โดยได้กำหนดนโยบายไว้ 11 ด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช 2557 มาตรา 19  ที่ระบุให้รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน และส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะที่มีภารกิจในการจัดและส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยมีบทบาทหลักดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในข้อที่ 4  นโยบายการศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม  นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังเป็นส่วนราชการที่สำคัญในการร่วมขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายที่ 1 การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์  นโยบายที่ 2 นโยบายการรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ  นโยบายที่ 7 นโยบายการส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน   นโยบายที่ 8 นโยบายการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม และนโยบายที่ 10 นโยบายการส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา 3 เดือน นับตั้งแต่ พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกรและพลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันแรกที่กระทรวงศึกษาธิการ ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 จนถึงเดือนธันวาคม 2557 ได้มีผลการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลด้านต่างๆ ดังนี้
นโยบายที่ 1 การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
- ได้จัดงาน “เทิดไท้พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” ระหว่างวันที่ 3 – 5ธันวาคม 2557 ณ บริเวณโดยรอบกระทรวงศึกษาธิการ โดยจัดกิจกรรมสาธารณะประโยชน์และปฏิญาณตนเป็นข้าราชการที่ดีของแผ่นดิน
- จัดกิจกรรมคาราวานจิตอาสา กระทรวงศึกษาธิการ โดยให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่งในส่วนกลางจัดข้าราชการออกไปบำเพ็ญประโยชน์ในสถานที่ต่างๆ อาทิ วัด โรงพยาบาล บ้านพักคนชรา
จัดโครงการเสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ ศาสนา และเทิดทูนพระมหากษัตริย์ โดยจัดประชุมผู้บริหาร กศนทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอในภูมิภาค เพื่อสร้างความรู้ ความตระหนัก เทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในชาติ รวมทั้งสามารถนำไปถ่ายทอดแก่ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทุกภาคส่วน 
นโยบายที่ การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ
- ดำเนินโครงการรณรงค์และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยเข้าไปสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกัน
ยาเสพติดแก่เด็กปฐมวัยในโรงเรียนอนุบาล และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกแห่งทั่วประเทศ 20,000 แห่ง
จัดกิจกรรมป้องกันเด็กและเยาวชนก่อนวัยเสี่ยงให้มีภูมิคุ้มกันยาเสพติด ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 ในโรงเรียนที่มีการจัดการเรียนการสอนทุกแห่ง ทั้งภาครัฐและเอกชน
จัดทำคู่มือจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6  และส่งเสริมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับโรงเรียนและสถานศึกษาเป้าหมายทุกแห่งทั่วประเทศ ที่เป็นสถานศึกษาขยายโอกาสมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ทั้งสังกัดภาครัฐและเอกชน 
- ดำเนินโครงการ To Be Number One โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
- ดำเนินการจัดตั้งและการดำเนินงานศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) หรือ “กระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า” ณ สำนักงานศึกษาธิการ ภาค 12 จังหวัดยะลา โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้การดำเนินงานทุกหน่วยในพื้นที่ให้มีเอกภาพและบูรณาการงานของกระทรวงศึกษาธิการ มุ่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนและความสันติสุขอย่างยั่งยืน  พัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีให้มีคุณภาพ จัดค่ายพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ จัดค่าย O–NET .6 และ ป.6 จัดกิจกรรมสนับสนุนการฝึกอาชีพในโรงเรียนและกิจกรรมเข้าค่ายอาเซียนสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา จัดสรรเงินอุดหนุนสถาบันศึกษาปอเนาะ สำหรับเป็นค่าบริหารจัดการสถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวน 373แห่ง จัดสรรทุนการศึกษาระดับปริญญาเอกเพื่อผลิตและพัฒนาอาจารย์และบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐบาลที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 จังหวัด นอกจากนี้ได้มีการพัฒนาชุดนวัตกรรมการเรียนการสอนภาษาไทย หลักสูตร 350 ชั่งโมงอ่านออกเขียนได้ เพื่อให้เป็นหลักสูตรต้นแบบในการสอนภาษาไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งพัฒนาครูเพื่อเตรียมความพร้อมด้านการสอนภาษาไทย จำนวน 4 หลักสูตร 



อ่านต่อ ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี

ไม่มีความคิดเห็น: