ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 460/2558 ก.ค.ศ.เห็นชอบเกณฑ์การย้าย ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ศึกษาธิการ - พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 12/2558 เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม 2558 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ว่าที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

---

 เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ฯ การย้าย ผอ.และรอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ด้วยหลักเกณฑ์การย้ายปัจจุบัน ตาม ว1/2558 มีปัญหาในทางปฏิบัติหลายประการ เช่น ไม่ยืดหยุ่นและไม่ครอบคลุมบริบทของตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จึงทำให้ไม่สามารถย้ายในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษา สลับกันได้ และไม่สามารถแต่งตั้งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งชั่วคราวและมีเงื่อนไข) ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งโครงสร้าง) ในเขตพื้นที่การศึกษาเดียวกันได้

นอกจากนี้ ในการย้ายผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ควรจะต้องคำนึงถึงหลักการใช้กำลังคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยพิจารณาถึงโครงสร้าง อัตรากำลัง และปรับขนาดกำลังคนในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาให้เหมาะสมกับภาระงาน ไม่กระจุกตัวอยู่ที่เขตพื้นที่การศึกษาขนาดใหญ่ รวมทั้งเพื่อให้การพิจารณาการย้ายมีความคล่องตัวและยืดหยุ่น สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานมากขึ้น โดยไม่กระทบสิทธิของผู้ดำรงตำแหน่งเดิม

ที่ประชุมจึงได้เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยมีสาระสำคัญ สรุปดังนี้

- หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ ใช้สำหรับการพิจารณาย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งชั่วคราวและมีเงื่อนไข และตำแหน่งโครงสร้าง) ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเดียวกันด้วย

- กำหนดให้มีกรณีการย้ายเพื่อเกลี่ยอัตรากำลังด้วย โดยการย้ายรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งชั่วคราวและมีเงื่อนไข) ไปดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งโครงสร้าง) ได้ทั้งในเขตพื้นที่การศึกษาอื่น และเขตพื้นที่การศึกษาเดิม

- การย้ายรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งชั่วคราวและมีเงื่อนไข) ไปดำรงตำแหน่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานั้นต้องมีผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งชั่วคราวและมีเงื่อนไข) น้อยกว่า 5 ตำแหน่ง สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา, และน้อยกว่า 2 ตำแหน่ง สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จึงจะสามารถรับย้ายได้ และเมื่อรับย้ายแล้วจะต้องไม่เกินจำนวนดังกล่าว

- กำหนดให้มีการพิจารณาย้ายผู้บริหารการศึกษา จากผู้ดำรงตำแหน่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาไปดำรงตำแหน่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาด้วยกัน หรือจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาไปดำรงตำแหน่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาด้วยกันก่อน  หากมีเหตุผลความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ให้พิจารณาย้ายข้ามจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาไปสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา หรือจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ไปสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาได้ โดยขออนุมัติ ก.ค.ศ. เป็นการเฉพาะราย

- เพิ่มองค์ประกอบของการพิจารณาย้าย ได้แก่ อายุ ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง และระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานการศึกษาในปัจจุบัน หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่จำเป็น

---

การพิจารณารับรองรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไป เพื่อใช้ในการขอมีหรือเลื่อน
วิทยฐานะตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ ว 13/2556

ที่ประชุมได้พิจารณาการรับรองรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไป เพื่อใช้ในการขอมีหรือเลื่อน
วิทยฐานะตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ ว 13/2556 ที่ ก.ค.ศ. เคยประกาศรับรองแล้ว ยังคงให้การรับรองเช่นเดิม

ส่วนการพิจารณารับรองรางวัลที่ส่วนราชการต่างๆ เสนอมาใหม่ ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาจากคณะทำงาน และ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับนโยบายและการบริหารงานบุคคล จำนวน 86 รางวัลนั้น ขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. กลับไปจัดทำข้อวิเคราะห์แต่ละรางวัลว่ามีความเป็นมาตรฐาน และเทียบเคียงได้กับรางวัลที่เคยรับรองไว้เดิมหรือไม่ พร้อมทั้งจัดกลุ่มรางวัลที่ได้รับการพิจารณารับรองให้เป็นหมวดหมู่ และให้นำมาเสนอที่ประชุมในครั้งต่อไป

---

การพิจารณาการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

ที่ประชุมได้พิจารณา (ร่าง) บัญชีการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ. เสนอ โดยนำหลักการเทียบตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กับตำแหน่งข้าราชการพลเรือน ประเภทวิชาการ และกำหนดคุณสมบัติโดยยึดเงื่อนไขและระยะเวลาการขอพระราชทาน ตามหลักเกณฑ์บัญชี 41

แต่ที่ประชุมขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. นำไปพิจารณากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้มีความรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง