วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553

โครงการเรียนฟรี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ ปีการศึกษา ๒๕๕๓

รมว.ศธ.กล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมการดำเนินการโครงการเรียนฟรี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ ปี ๒๕๕๓ ซึ่งมีการจัดสรรงบประมาณในโครงการเรียนฟรี ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และ ปวช. ๑-๓ ทั้งในส่วนของสถานศึกษารัฐบาล เอกชน รวมทั้ง กศน.เป็นเงินทั้งสิ้น ๗๓,๕๗๖ ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ค่าเล่าเรียน จำนวน ๔๙,๘๙๖ ล้านบาท และเงินอุดหนุน ๔ รายการ คือ ตำราเรียน ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จำนวน ๒๓,๖๘๐ ล้านบาท

สำหรับการเตรียมการในปีนี้ รมว.ศธ.มั่นใจว่า ทุกอย่างจะราบรื่นและเรียบร้อย เพราะมีประสบการณ์และมีเวลาในการเตรียมการ โดยมีตารางเวลาในดำเนินการ คือภายในวันที่ ๑๕-๓๑ มกราคม ๒๕๕๓ จะโอนเงินให้สถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อจัดซื้อตำราเรียนในส่วนที่จำเป็นและเป็นไปตามกฎเกณฑ์ กติกา คือ สำหรับจัดซื้อตำราเรียนตามหลักสูตรใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปีการศึกษา ๒๕๕๓ เฉพาะวิชาสังคม ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ส่วนวิชาอื่นๆ จะจัดซื้อเฉพาะชั้นปีแรกของช่วงชั้นทั้ง ๔ ช่วงชั้น

ในส่วนของการจัดซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน จะใช้แนวทางเดียวกับที่ได้ดำเนินการในปี ๒๕๕๒ คือ โรงเรียนต้องมอบเงินสดให้กับผู้ปกครองและนักเรียน เพื่อนำเงินไปจัดซื้อด้วยตนเอง โดยการจัดซื้อตำราเรียนและการมอบเงินสดให้กับผู้ปกครอง สามารถดำเนินการได้ทันทีที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลางแล้ว และ รมว.ศธ.มั่นใจว่าจะดำเนินการได้ทันก่อนเปิดภาคเรียนปีการศึกษา ๒๕๕๓ แน่นอน

รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า ปีการศึกษา ๒๕๕๓ จะเป็นปีแรกของการเริ่มต้นใช้หลักสูตรใหม่และใช้ระบบการเรียนการสอนแบบใหม่ ที่มุ่งเน้นการคิด วิเคราะห์ มากกว่าการท่องจำ และสอนในเนื้อหาที่ไม่ซ้ำซ้อนเหมือนในอดีต ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เพราะมีการตัดเนื้อหาซ้ำซ้อนออกไปถึง ๓๐% กระบวนการเรียนการสอนจึงสอดคล้องกับการเรียนแบบใหม่ และตำราเรียนที่จัดซื้อในปีนี้ ก็เป็นตำราเรียนที่ต้นฉบับได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องแล้วเช่นกัน


สำหรับการดำเนินการโครงการเรียนฟรี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ ปีการศึกษา ๒๕๕๒ ศธ.พบประเด็นปัญหา ๒ ประการ คือ

๑. การดำเนินการของโรงเรียนสังกัดกระทรวงอื่น มีแนวทางปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของ ศธ. เช่น การจัดซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ใช้วิธีซื้อชุดนักเรียนแจก หรือไม่ได้มอบเป็นเงินสดให้กับผู้ปกครอง เป็นต้น แต่ในปีนี้จะต้องปฏิบัติแนวทางเดียวกับ ศธ. เพราะคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วว่า สำหรับโครงการเรียนฟรี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสังกัดใด กระทรวงใด ก็ต้องปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับที่ ศธ.ดำเนินการ ซึ่ง ศธ.จะจัดให้มีการประชุมชี้แจง ทำความเข้าใจ กับโรงเรียนในสังกัดกระทรวงอื่นโดยเร็ว และได้มอบให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ประสานงานกับทุกโรงเรียนในสังกัดทุกสังกัด และจัดให้มีการประชุมชี้แจงในแต่ละจังหวัด แต่ละเขตพื้นที่ด้วย

๒. การสละสิทธิ์ เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือโรงเรียนด้อยโอกาสของ สพฐ.ทั่วประเทศในปี ๒๕๕๒ มีขั้นตอนและกระบวนการที่สับสน เพราะติดขัดกฎระเบียบ ทำให้การสละสิทธิ์เกิดความยุ่งยาก ส่งผลให้การสละสิทธิ์ลดน้อยลงไปเกือบเท่าตัว โดยในปีนี้ได้มีการปรับปรุงแก้ไข จะทำให้การสละสิทธิ์สะดวกยิ่งขึ้น สามารถสละสิทธิ์ได้ทั้ง ๒ ส่วนพร้อมกัน คือ ส่วนชุดนักเรียนและส่วนอุปกรณ์การเรียน และสามารถสละสิทธิ์ได้ตั้งแต่ ๑ ปี จนกระทั่งถึง ๖ ปี ในกระดาษเอกสารชิ้นเดียวกัน ทำให้การสละสิทธิ์มีความสะดวกสำหรับผู้ปกครองมากขึ้น และจะมีการเตรียมการตั้งแต่ต้นปี


รมว.ศธ.กล่าวในตอนท้ายว่า การจัดพิมพ์ตำราเรียนตามหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนแบบใหม่ ขณะนี้ได้รับการยืนยันจาก สพฐ.ว่า ต้นฉบับส่วนใหญ่ดำเนินการเสร็จแล้ว และมั่นใจว่า จะสามารถส่งให้สำนักพิมพ์และองค์การค้าของคุรุสภาจัดพิมพ์ได้ทันเวลา.

ไม่มีความคิดเห็น: