วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

แนวข้อสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง(ชุดที่2)

1. พรบ.กศน.2551ไม่ใช้บังคับ กับการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานใด
ก. สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
ข. สถาบันอุดมศึกษาของเอกชน
ค. สถาบันอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชน
ง. ข้อ ก และ ข

2. ข้อใดคือ การศึกษานอกระบบ
ก. กิจกรรมการศึกษาที่มีกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการและวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ที่ชัดเจน มีรูปแบบ หลักสูตร วิธีการจัดและระยะเวลาเรียนหรือฝึกอบรมที่ตรงตามสภาพความต้องการและศักยภาพในการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายนั้น
ข. กิจกรรมการศึกษาที่มีกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการและวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ที่ชัดเจน มีรูปแบบ หลักสูตร วิธีการจัดและระยะเวลาเรียนหรือฝึกอบรมที่ตรงตามสภาพความต้องการและศักยภาพในการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายนั้นและมีวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ที่มีมาตรฐานเพื่อรับคุณวุฒิทางการศึกษา หรือเพื่อจัดระดับผลการเรียนรู้
ค. กิจกรรมการศึกษาที่มีกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการและวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ที่ชัดเจน มีรูปแบบ หลักสูตร วิธีการจัดและระยะเวลาเรียนหรือฝึกอบรมที่เหมาะสมกับสภาพความต้องการและศักยภาพในการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายนั้นและมีวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ที่มีมาตรฐานเพื่อรับคุณวุฒิทางการศึกษา หรือเพื่อจัดระดับผลการเรียนรู้
ง. กิจกรรมการศึกษาที่มีกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการและวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ที่ชัดเจน มีรูปแบบ หลักสูตร วิธีการจัดและระยะเวลาเรียนหรือฝึกอบรมที่ยืดหยุ่นและหลากหลายตามสภาพความต้องการและศักยภาพในการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายนั้นและมีวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ที่มีมาตรฐานเพื่อรับคุณวุฒิทางการศึกษา หรือเพื่อจัดระดับผลการเรียนรู้

3. ข้อใดคือ การศึกษาตามอัธยาศัย
ก. กิจกรรมการเรียนรู้ในวิถีชีวิตประจำวันของบุคคลซึ่งบุคคลสามารถเลือกที่จะเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ตามความสนใจ ความต้องการ โอกาสความพร้อม และศักยภาพในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล
ข. กิจกรรมการเรียนรู้ในวิถีชีวิตประจำวันของบุคคลซึ่งบุคคลสามารถเลือกที่จะเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ตามหลักสูตร และศักยภาพในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล
ค. กิจกรรมการเรียนรู้ในวิถีชีวิตประจำวันของบุคคลซึ่งบุคคลสามารถเลือกที่จะเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มีความยืดหยุ่น ตามความต้องการ โอกาสความพร้อม และศักยภาพในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล
ง. กิจกรรมการเรียนรู้ในวิถีชีวิตประจำวันของบุคคลซึ่งบุคคลสามารถเลือกที่จะเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ตามหลักสูตรและความยืดหยุ่นในโอกาสความพร้อม และศักยภาพในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล

4. เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย คือ
ก. นายสุเมธ แย้มนุ่น
ข. นายธีระ จันทรรัตน์
ค. นายธงทอง จันทรางศุ
ง. นายอภิชาติ จีระวุฒ

5. ข้อใดคือ หลักการข้อที่ 1 ของ การศึกษานอกระบบ
ก. ความเสมอภาคในการเข้าถึงและได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง
ข. การกระจายอำนาจแก่สถานศึกษาและการให้ภาคีเครือข่าย
ค. การเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความสนใจและวิถีชีวิตของผู้เรียน
ง. การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้มีความหลากหลายทั้งส่วนที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น

6. ข้อใดคือ หลักการข้อที่ 1 ของ การศึกษาตามอัธยาศัย
ก. ความเสมอภาคในการเข้าถึงและได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง
ข. การกระจายอำนาจแก่สถานศึกษาและการให้ภาคีเครือข่าย
ค. การเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความสนใจและวิถีชีวิตของผู้เรียน
ง. การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้มีความหลากหลายทั้งส่วนที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น

7. ข้อใดคือ เป้าหมายของการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาตามอัธยาศัย
ก. ได้รับความรู้และทักษะพื้นฐานในการแสวงหาความรู้ที่จะเอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ข. ได้เรียนรู้สาระที่สอดคล้องกับความสนใจและความจำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิต
ค. นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์และเทียบโอนผลการเรียนกับการศึกษาในระบบและการศึกษานอกระบบ
ง. ถูกทุกข้อ

8. ใครเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับมอบหมาย
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

9. คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยมีกี่คน
ก. 17 คน
ข. 19 คน
ค. 21 คน
ง. 28 คน

10. ข้อใดไม่ใช่กรรมการโดยตำแหน่งในคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ก. เลขาธิการสภาการศึกษา
ข. เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
ค. เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง. เลขาธิการคุรุสภา

11.ข้อใดคือ สายด่วน กศน.
ก. 1669
ข. 1660
ค. 1559
ง. 1550

12. ใครเป็นผู้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการภาคีเครือข่าย
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ง. คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

13.ใครเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด
ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ข. รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมาย
ค. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 1
ง. ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด

14. ใครเป็นผู้จัดทำบัญชีรายชื่อสถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ง. ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน

15.การประกาศรายชื่อสถานศึกษาตามข้อ 14ให้ประกาศอย่างไร
ก. ประกาศเป็นกฎกระทรวง
ข. ประกาศเป็นประกาศกระทรวง
ค. ประกาศเป็นระเบียบกระทรวง
ง. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

16.การประกาศรายชื่อสถานศึกษาตามข้อ 14 ให้ประกาศภายในกี่วัน
ก. 30 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ข. 60 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ค. 90 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ง. 120 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

17. เหตุผลในการตราพ.ร.บ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2551 คือ
ก. เพื่อส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ข. เพื่อให้มีการประสานกับการศึกษาในระบบ
ค. เพื่อการบริหารงานที่คล่องตัวของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ง. เพื่อให้มีกฎหมายรองรับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

18.พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 มีผลใช้บังคับเมื่อใด
ก. 5 กุมภาพันธ์ 2551
ข. 6 กุมภาพันธ์ 2551
ค. 7 กุมภาพันธ์ 2551
ง. 8 กุมภาพันธ์ 2551

19.ข้อใดคือ แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)
ก. Individualized Education Plan
ข. Individualized Education Program
ค. Individualized Education Project
ง. Individualized Education Prompt

20.เกณฑ์ที่ใช้ในการจัดทำ IEP คือ
ก. เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป และเด็กที่มีความพร้อมทางการเรียนรู้วิชาการ
ข. เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป และเด็กที่มีความพร้อมทางร่างกายและรับรู้
ค. เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป และเด็กที่มีความพร้อมทางการเรียนรู้วิชาการ
ง. เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป และเด็กที่มีความพร้อมทางร่างกายและรับรู้

21.ครูการศึกษาพิเศษ ต้องคุณสมบัติตามข้อใด
ก. มีวุฒิทางการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปและปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
ข. มีวุฒิทางการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรีขึ้นไป และปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
ค. มีวุฒิทางการศึกษาพิเศษระดับปริญญาตรีขึ้นไป และปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
ง. มีวุฒิทางการศึกษาพิเศษสูงกว่าระดับปริญญาตรีขึ้นไปและปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน

22. คณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ มีกี่คน
ก. 17 คน
ข. 19 คน
ค. 21 คน
ง. 28 คน

23. ใครเป็นรองประธานคนที่ 1 ในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ก. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ
ง. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

24. ใครเป็นรองประธานคนที่ 2 ในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ก. ผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ข. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ค. ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นคนพิการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นคนพิการซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง

25. ข้อใดไม่ใช่กรรมการโดยตำแหน่งในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ
ก. เลขาธิการสภา
ข. เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ค. เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง. อธิบดีกรมการแพทย์

26.ข้อใด มีหน้าที่ดำเนินการจัดการเรียนร่วม การนิเทศ กำกับ ติดตาม เพื่อให้คนพิการได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ
ก. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. สำนักงานการศึกษาพิเศษ
ค. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

27. ใครเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาพิเศษ

28.พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 มีผลใช้บังคับเมื่อใด
ก. 11 มกราคม 2550
ข. 12 มกราคม 2550
ค. 11 มกราคม 2551
ง. 12 มกราคม 2551

29.พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 ไม่บังคับใช้ในข้อใด
ก. สถานศึกษาที่มีนักเรียนรวมกันไม่เกิน 7 คน
ข. สถานศึกษาที่มีนักเรียนรวมกันไม่เกิน 8 คน
ค. สถานศึกษาที่มีนักเรียนรวมกันไม่เกิน 9 คน
ง. สถานศึกษาที่มีนักเรียนรวมกันไม่เกิน 10 คน

30. ใครเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน

31. สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนสังกัดหน่วยงานใด
ก. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ข. สำนักงานสภาการศึกษา
ค. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. สังกัดกระทรวงศึกษาธิการโดยตรง

32. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีกลุ่มส่งเสริมสถานศึกษาเอกชนให้มีกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาเพิ่มขึ้นอีกกี่คน
ก. 1 คน
ข. 2 คน
ค. 3 คน
ง. 4 คน

33. รายการข้อที่ 1 ของตราสารจัดตั้งโรงเรียนเอกชน คือ
ก. ชื่อ ประเภท ระดับ ของโรงเรียนในระบบ
ข. วัตถุประสงค์
ค. รายละเอียดเกี่ยวกับที่ดิน ที่ตั้ง
ง. เงินทุนและทรัพย์สินที่ใช้ในการจัดตั้ง

34. ข้อใดไม่ใช่รายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียนเอกชนในระบบ
ก. โครงการและแผนการดำเนินงาน
ข. หลักสูตร วิธีการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลการศึกษา
ค. อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น
ง. เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับกิจการทุกข้อ

35.ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบที่เป็นบุคคลธรรมดา
ก. เชื้อชาติไทย
ข. อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
ค. สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
ง. เป็นคุณสมบัติทุกข้อ

36.ผลกำไรที่ได้จากการดำเนินกิจการของโรงเรียนในระบบในแต่ละปีให้จัดสรรเข้ากองทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 10
ข. ร้อยละ 20
ค. ร้อยละ 30
ง. ร้อยละ 40

37. โรงเรียนในระบบห้ามหยุดสอนติดต่อกันเกินกี่วัน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ก. 3 วัน
ข. 5 วัน
ค. 7 วัน
ง. 15 วัน

38.กรณีที่ผู้รับใบอนุญาตตายหรือเป็นคนสาบสูญ ทายาทสามารถยื่นคำขอรับโอนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในกี่วัน
ก. 30 วัน
ข. 60 วัน
ค. 90 วัน
ง. 120 วัน

39.การจัดตั้งโรงเรียนเอกชนในระบบโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

40.การเปลี่ยนแปลงรายการตราสารจัดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต มีโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ข. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ค. ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ง. ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

41.การกระทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่า เป็นตัวแทนของสถาบันการศึกษาต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ข. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ค. ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ง. ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

42.การปลอมแปลงเอกสารใบรับรองผลการเรียนของนักเรียนโรงเรียนเอกชน มีโทษอย่างไร
ก. จำคุก 6 เดือนถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000บาทถึง 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุก 1- 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000บาทถึง 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุก 6 เดือนถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000บาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุก 1 - 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000บาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

43.หากผู้กระทำผิดตามข้อ 42 เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ให้เพิ่มโทษกี่เท่า
ก. 1 เท่า
ข. 2 เท่า
ค. 3 เท่า
ง. 4 เท่า

44.โรงเรียนเอกชนใดไม่จัดทำเอกสารการเรียนการสอนเป็นภาษาไทย มีโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ข. ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ค. ปรับไม่เกิน 30,000 บาท
ง. ปรับไม่เกิน 50,000 บาท

45. การยอมให้ผู้อื่นกระทำการที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ มีโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ข. ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ค. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท
ง. ปรับไม่เกิน 500,000 บาท

46.การหยุดเรียนเกินกว่าที่กำหนดตามข้อ 37 โดยไม่แจ้งผู้อนุญาตทราบ มีโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ข. ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ค. ปรับไม่เกิน 30,000 บาท
ง. ปรับไม่เกิน 50,000 บาท

47.เมื่อมีคำสั่งให้ควบคุมโรงเรียน ผู้รับอนุญาตไม่ส่งมอบทรัพย์สินต่อคณะกรรมการภายใน 7 วัน มีโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทและปรับอีกวันละหนึ่งพันบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน
ข. ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทและปรับอีกวันละห้าพันบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน
ค. ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทและปรับอีกวันละหนึ่งพันบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน
ง. ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทและปรับอีกวันละห้าพันบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน

48.อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ ฉบับละกี่บาท
ก. 2,000 บาท
ข. 3,000 บาท
ค. 4,000 บาท
ง. 5,000 บาท

49.อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบ ฉบับละกี่บาท
ก. 2,000 บาท
ข. 3,000 บาท
ค. 4,000 บาท
ง. 5,000 บาท

50.อัตราค่าธรรมเนียมใบแทนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ ฉบับละกี่บาท
ก. 200 บาท
ข. 300 บาท
ค. 400 บาท
. 500 บาท

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล

Unknown กล่าวว่า...

ข้อมูลมีประโยชน์ครับ