ศธ.แจ้งความกรณีปลอมแปลงหนังสือราชการ

ศึกษาธิการ - นายสุทธิชัย จันทร์อารักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๓ ว่า น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ทนายความไปดำเนินการแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิตแล้ว กรณีมีการปลอมแปลงเลียนแบบหนังสือคำสั่งของทางราชการ

เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีบุคคลดำเนินการปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ โดยจัดทำเป็นหนังสือคำสั่งที่ สร.พ.๗๑/๒๕๕๓ ลงวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๓ เรื่อง ให้เร่งดำเนินการจัดซื้อชุดนักศึกษาตามแบบที่กำหนด ซึ่งลงนามโดย น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศธ. ส่งถึงผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งมีเนื้อความอ้างถึงการประชุมในวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๓ โดยให้ผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาเตรียมการจัดซื้อเสื้อผ้า โดย รมช.ศธ.จะเป็นผู้กำหนดบริษัทให้ และห้ามซื้อจากบริษัทอื่น หากผู้ใดฝ่าฝืนจะลงโทษขั้นสูงสุด รวมทั้งยังได้มีการกำหนดผู้รับผิดชอบใน ๔ ภาค ได้แก่ นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ ที่ปรึกษา รมช.ศธ.ประสานงานภาคกลาง, นายสุทธิชัย จันทร์อารักษ์ ผช.ลก.รมว.ศธ.ประสานงานภาคอีสาน, นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ผอ.สำนักติดตามและประเมินผลฯ ประสานงานภาคเหนือ, นายวณิชย์ อ่วมศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ ประสานงานภาคใต้ และท้ายหนังสือยังปลอมลายมือชื่อของ รมช.ศธ.อีกด้วย

หนังสือดังกล่าวยังสอดรับกับหนังสืออีกฉบับ ที่ลงนามโดยผู้บริหารอาชีวศึกษา สมาชิกสมาพันธ์ครูอาชีวศึกษา ลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ซึ่งระบุว่าไม่เข้าใจว่าจะปฏิบัติตนอย่างไรที่จะเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะหนังสือที่จะประชุมในวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๓ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของการบริหารราชการตามลำดับชั้น อีกทั้ง รมช.ศธ.ไม่รู้สถานการณ์ว่ามีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่ยังเรียกประชุมอยู่ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย

ซึ่งหนังสือทั้ง ๒ ฉบับนี้สอดคล้องกับการแถลงข่าวของ นายสิทธิพงษ์ ณ เชียงใหม่ ประธานสมาพันธ์ครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย ที่ว่ามีการเชิญประชุมโดยมีวาระซ่อนเร้น มีการล้วงลูก ตนจึงขอชี้แจงทำความเข้าใจว่า รมช.ศธ. ได้มีการเชิญประชุมในวันที่ ๑๑ มีนาคมที่ผ่านมาจริง แต่เพื่อทำความเข้าใจและต้องการข้อมูลพื้นฐานของแต่ละวิทยาลัยในการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา และเรื่องอื่นๆ โดยสั่งการให้ นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นผู้ลงนามในคำสั่ง แต่เมื่อมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็ได้เลื่อนการประชุมดังกล่าวเป็นวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๓ ฉะนั้นกระบวนการดังกล่าวจึงเป็นการจ้องที่จะทำลายและมุ่งให้เกิดความเสื่อมเสีย การเข้าใจผิดของสังคม

รมช.ศธ.ได้บริหารงานมา ๑ ปีกว่า แต่คณะกรรมการการอาชีวศึกษายังไม่เคยเชิญ รมช.ศธ.ไปเข้าร่วมประชุม หรือให้คำแนะนำใดๆ เลย นอกจากนี้การประชุมทุกครั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีบันทึกการประชุมเสนอ ให้รับทราบ ในขณะเดียวกัน ศธ.จัดการเสวนาการปฏิรูปการศึกษามาแล้ว ๓ ครั้ง ได้มีการเชิญคณะกรรมการการอาชีวศึกษามาเข้าร่วมทุกครั้ง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ อีกทั้งการทำงานไม่เคยมีการประสานงานกัน เหมือนต่างคนต่างทำงาน อีกทั้งเรื่องกระบวนการทำหนังสือ บัตรสนเท่ห์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ก็ไม่มีปฏิกิริยาจากเลขาธิการ กอศ. ที่ไม่ออกมาปกป้อง สำหรับกรณีดังกล่าวจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว ทำให้ทำงานร่วมกันไม่ได้หรือไม่นั้น ลก. รมว.ศธ.กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าไปขัดผลประโยชน์ใครหรือไม่ แต่ รมช.ศธ.ให้นโยบายมาตลอดว่า ต้องการความโปร่งใส โดยมีการเชิญคณะกรรมการจากภายนอกมาร่วมดำเนินการทุกครั้ง

ด้านเลขาธิการ กอศ. กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการปลอมแปลงหนังสือคำสั่งราชการนั้น ตนรับทราบจากนายประดิษฐ์ ระสิตานนท์ รองเลขาธิการ กอศ.แล้ว และได้แจ้งไปยังผู้บริหารสถานศึกษา สอศ.ทั่วประเทศได้รับทราบว่าหนังสือดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม พร้อมกับให้สอบหาข้อเท็จจริงด้วยว่าเอกสารดังกล่าวมาจากที่ใด มีความเป็นมาอย่างไร.