วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ผลงานดีเด่นการประเมินวิทยฐานะเชิงประจักษ์

ก.ค.ศ.ให้ครูที่มีผลงานดีเด่นขอรับการประเมินผลงานเชิงประจักษ์ได้ กลางเดือน ก.ค.นี้ "อภิชาติ" ชี้แนวทางพิจารณาจะดูผลงานครูจากความสำเร็จของนักเรียนมากกว่าคะแนนโอเน็ต เผยคณะทำงานพิจารณาผลงานดีเด่นระดับชาติของครูเตรียมประชุม 30 มิ.ย.นี้ ส่วนเรื่องปรับขึ้นเงินเดือนครู 8% สอศ.ยังติดปัญหา ต้องรอกรมบัญชีกลางยืนยัน

นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการพิจารณาเพื่อหาหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ที่มีผลงานดีเด่น ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ เพื่อประเมินให้มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ เบื้องต้นจะมีการประชุมคณะทำงานพิจารณาในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาคัดกรองรางวัลที่เป็นรางวัลดีเด่นระดับชาติไว้ใช้ในการประเมินเชิงประจักษ์ โดยมีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เป็นประธานฯ

ทั้งนี้ ขณะนี้ได้มีหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศที่มีการมอบรางวัลให้กับครูผู้มีผลงานดีเด่นได้รายงานชื่อครูที่ได้รางวัลมายังสำนักงาน ก.ค.ศ.แล้วจำนวน 356 รายการ ซึ่งได้มีการคัดเลือกว่าเป็นรางวัลที่สมควรจะเสนอต่อคณะทำงาน เหลือเพียง 300 รายการ และจะมีการพิจารณาคัดกรองอีกชั้นว่าสมควรจะให้เป็นรางวัลดีเด่นระดับชาติหรือไม่ ก่อนนำเสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญตำแหน่งเพื่อประกาศใช้ จากนั้นจะเปิดให้ผู้บังคับบัญชาเสนอชื่อรวมทั้งจะเปิดโอกาสให้ครูได้แสดงตนเพื่อขอรับการประเมินผลงานเชิงประจักษ์ได้ ประมาณกลางเดือน ก.ค.นี้

“ที่ผ่านมาการพิจารณาผลงานเชิงประจักษ์ของครูคนส่วนใหญ่มักจะมุ่งไปที่ผลคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) แต่การพิจารณาเชิงประจักษ์ตามหลักเกณฑ์วิธีการใหม่จะดูที่ผลผลิตของนักเรียนที่ครูสอนมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง อาทิ เด็กจบชั้น ม.3 แล้วออกไปทำงาน แล้วประสบความสำเร็จภายใน 3-5 ปี อันนี้เป็นผลงานที่สำคัญกว่า ทั้งนี้ หากใครคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ก็ให้เสนอตัวเองมา อย่างไรก็ตาม ในขั้นต้นที่จะเสนอต้องผ่านการคัดกรองจากหน่วยงานต้นสังกัดว่ามีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือไม่” ปลัด ศธ.กล่าว

ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ติดตามการเบิกจ่ายเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีการปรับขึ้นเงินเดือน 8% ซึ่งพบว่าขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ตั้งเรื่องเบิกจ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มีเพียงสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่รอการยืนยันจากกรมบัญชีกลาง ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้รับคำตอบ ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าการปรับเงินเดือนตามเพดานเงินเดือนใหม่ ตาม พ.ร.บ.เงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและเงินวิทยฐานะ ทำให้เสียสิทธิ์ในการได้รับเงินเพิ่มจาก คศ.3 เป็น คศ.4 และ คศ.4 เป็น คศ.5 นั้น ที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ว่ามีข้าราชการครูได้รับผลกระทบเรื่องนี้จริงหรือไม่ เพื่อจะได้เข้าไปช่วยแก้ปัญหา หากจะต้องมีการปรับแก้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการให้ เพราะมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากว่า 1,000 คน ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว.

ที่มา นสพ.ไทยโพสต์

ไม่มีความคิดเห็น: