วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ไฟเขียวอ.ก.ค.ศ.เขตฯคัด'ผอ.พรีเมียม' ยื่นย้ายรอบใหม่ส.ค.ดู'คุณวุฒิ-ผลงาน'

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในส่วนของสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ และสถานศึกษาคุณภาพพิเศษ หรือโรงเรียนพรีเมียม ตามมติของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญ เกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคลที่เห็นว่าตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว9/2554 ก.ค.ศ.ได้กำหนดให้มีการย้ายไปดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษฯ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้พิจารณากลั่นกรองการย้าย ให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาเกี่ยวข้องพิจารณา แต่เนื่องจากการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษา อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ สามารถพิจารณาย้ายภายในเขตพื้นที่ฯ ต่างเขตพื้นที่ฯ และต่างสังกัดได้ในคราวเดียวกัน เพราะทำให้การสรรหาบุคคลดำเนินการได้อย่างคล่องตัว จึงอาจไม่จำเป็นต้องกำหนดสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ และสถานศึกษาคุณภาพพิเศษ
          "เมื่อไม่มีกลุ่มโรงเรียนพรีเมียม ก็ไม่ต้องมีการกลั่นกรองอีก ซึ่งรอบใหม่ที่จะให้ยื่นย้ายระหว่างวันที่ 1-15 สิงหาคมนี้ จะต้องใช้หลักเกณฑ์ตามที่ ก.ค.ศ.เห็นชอบ คือให้เรื่องนี้เป็นอำนาจการพิจารณาของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ และไม่ต้องมีการกลั่นกรองจากส่วนกลาง จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ที่จะต้องดูคุณวุฒิ ประสบการณ์ และผลงาน ในการคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสม จะเข้ามาเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา" นายชินภัทรกล่าว
          นางจำนงค์ แจ่มจันทร์วงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า เห็นด้วยกับมติของที่ประชุม ก.ค.ศ.ที่จะให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ เป็นผู้พิจารณาโยกย้ายในส่วนของโรงเรียนพรีเมียมเอง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กำหนดให้การบริหารงานบุคคลเป็นอำนาจของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อยู่แล้ว ซึ่งการดำเนินการของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ได้ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการ มีการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ และทุกอย่างต้องโปร่งใส ฉะนั้น จึงไม่น่าจะกังวล และคิดว่าจะต้องพิจารณาคนที่มีคุณสมบัติ และคัดคนที่มีความสามารถเข้ามา อย่างไรก็ตาม คิดว่า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ คงไม่ทำอะไรที่ประมาท หรือไม่รอบคอบ
          ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

ปรับศึกษาทางไกลสอดคล้องชุมชนแล้วเสร็จก.ค.นี้

          ศ.ดร.ปรัชญา เวสารัชช์ ประธานอนุกรรมการพิจารณาและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาระบบการศึกษาทางไกล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ อนุกรรมการพิจารณาและติดตามฯ ได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานพัฒนาเกณฑ์การเปิดดำเนินการหลักสูตรระดับปริญญาในระบบการศึกษาทางไกล ที่มี ผศ.สุพรรณี สมบุญธรรม เป็นประธาน เรื่องหลักเกณฑ์การขอเปิดและดำเนินการหลักสูตรระดับปริญญาในระบบการศึกษาทางไกล พ.ศ.2548 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ปรับปรุงประกาศที่จะต้องสอดคล้องและดำเนินการตามมติคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) โดยเฉพาะการอนุมัติให้เปิดหลักสูตรต้องเป็นสาขาวิชาที่เป็นความต้องการของชุมชนและสังคม โดยเป็นสาขาวิชาที่สถาบันนั้นๆ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และต้องมีผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก ระดับคณะในระดับดีมากในรอบปีการศึกษาสุดท้าย และไม่ให้จัดการเรียนการสอนในระบบการศึกษาทางไกลในหลักสูตรระดับปริญญาเอก เนื่องจากเป็นหลักสูตรสำคัญ ผู้เรียนควรได้รับความรู้เหมาะกับการเป็นดุษฎีบัณฑิต
          "สถาบันที่จัดการศึกษาทางไกล ที่เกาหลี ได้เก็บค่าเล่าเรียนนักศึกษาไม่ต่างจากนักศึกษาที่เรียนในระบบการศึกษาทั่วไป ขณะที่ต้นทุนการจัดการศึกษาทางไกลไม่ได้ถูกกว่าการจัดการศึกษาปกติ แต่เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้จริงสามารถนำไปใช้ได้ ต่างจากไทยไม่เน้นว่าผู้เรียนต้องมีความรู้จริง แค่ให้ได้ปริญญาและไม่ต้องเรียนมากคณะทำงานพัฒนาเกณฑ์การเปิดดำเนินการฯ จะต้องนำข้อมูลนี้มาปรับปรุงประกาศให้สอดคล้องกับของไทย" ศ.ดร.ปรัชญา กล่าว
          ส่วนความคืบหน้าในการพิจารณารับทราบหลักสูตรการจัดการศึกษาระบบการศึกษาทางไกลของสถาบันอุดมศึกษา 9 แห่ง แต่ขอยกเลิก 4 แห่ง เนื่องจากเกรงว่าจะจัดการสอนไม่ได้คุณภาพ ทำให้เหลือสถาบันขอรับทราบและปรับปรุงหลักสูตร 5 แห่ง 10 หลักสูตร สกอ.ได้ไปตรวจประเมินที่สถาบันทั้งหมดแล้ว และอยู่ช่วงพิจารณาข้อมูล แต่จะต้องเร่งดำเนินให้เร็วที่สุด และต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงประกาศดังกล่าวให้เสร็จภายในเดือนนี้ เนื่องจากนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการ กกอ. ให้เร่งดำเนินการ เพื่อจะได้ประกาศใช้
          ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


ไม่มีความคิดเห็น: