ความก้าวหน้าการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี และงบกระตุ้นเศรษฐกิจ
ที่ประชุมได้รับทราบ สป.ได้รายงานผลการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ ในไตรมาสแรก (1 ตุลาคม 2557-30 มกราคม 2558) ซึ่งได้มีการเบิกจ่ายตามระบบ GFMIS โดยมีผลการเบิกจ่าย (ทุกงบ) จำนวน 184,385 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 37 ของงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับในปีงบประมาณนี้ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายการเบิกจ่ายที่ได้ตั้งไว้ในไตรมาสแรก ในส่วนของการเบิกจ่ายงบลงทุน ได้เบิกจ่ายไปแล้ว 8,362 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 21 ของงบลงทุนที่ได้รับในปีงบประมาณนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะ 3 เดือนแรกในกลุ่มมาตรการเพื่อการสร้างงาน : งบกลางที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีและงบไทยเข้มแข็งของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 12,959 ล้านบาท ซึ่งนางผานิตย์ มีสุนทร รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการติดตามงบลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงศึกษาธิการ ได้รายงานความก้าวหน้าของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรวมทั้งสิ้น 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สพฐ. 8,796 ล้านบาท สอศ. 2,375 ล้านบาท และ สกอ./มหาวิทยาลัยของรัฐ 71 แห่ง 1,788 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ย้ำในที่ประชุมด้วยว่า ขอให้มีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินการด้วยความรอบคอบ พร้อมทั้งกำชับหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณให้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างโปร่งใส
- ร่างหลักเกณฑ์ฯ เลื่อนเป็นวิทยฐานะตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement)
สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement) โดยสาระสำคัญของการประเมินตามหลักเกณฑ์นี้เพื่อเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งประเมินจากผลในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานในหน้าที่ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณภาพของผู้เรียน ซึ่งจะทำให้ครูไม่ทิ้งห้องเรียน
รายละเอียดตามร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะเสนอให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณา ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558
- รายงานผลการดำเนินงานการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับผลการดำเนินงานการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2558 ซึ่งได้ดำเนินการภายใต้วิสัยทัศน์ “มุ่งให้จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัยปราศจากเงื่อนไขการใช้ความรุนแรง มีสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติ ทุกภาคส่วนมีความเข้าใจ ไว้วางใจ และมีส่วนร่วมในกระบวนการเสริมสร้างสันติภาพ” เพื่อพัฒนาการศึกษา สนับสนุนการแก้ไขปัญหา ตลอดจนพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในปีงบประมาณ 2558 กระทรวงศึกษาธิการได้รับจัดสรรงบประมาณในการดำเนินงานพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 154 โครงการ เป็นเงิน 3,453 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เบิกจ่ายไปแล้วในไตรมาสแรก 688 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 ของงบประมาณที่ได้รับจัดสรร โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ การจัดสรรทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ 486 ราย รวมเป็นเงิน 29 ล้านบาท การจัดกีฬาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรการดูแลความปลอดภัยครูและบุคลากรทางการศึกษา โครงการสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดตั้งศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
- รายงานผลการตรวจราชการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ
ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รายงานผลการตรวจราชการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในปี 2558 ในประเด็นนโยบายสำคัญเรื่อง “การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 และการดำรงความต่อเนื่องภายหลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน” ของเขตตรวจราชการที่ 17 (พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์) และเขตตรวจที่ 18 (กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี) ซึ่งมีสรุปผลการตรวจประเด็นการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 4 ประเด็น ได้แก่
- โครงสร้างพื้นฐาน : หน่วยงานในเขตพื้นที่ได้กำหนดศูนย์อาเซียนศึกษา และทุกโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
- ความพร้อมของนักเรียน : ผลสัมฤทธิ์รายวิชาหลักของนักเรียนในระดับ ป.6 และ ม.3 ยังต่ำกว่าเกณฑ์ระดับประเทศ มีการจัดการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศและภาษาอาเซียน จัดการแข่งขันตอบปัญหาอาเซียน พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการเรียนรู้
- ความพร้อมของครู : มีการอบรมครูด้านภาษาและกระบวนการคิด การใช้ ASEAN Curriculum เป็นการพัฒนาหลักสูตรร่วมอาเซียนในกลุ่มโรงเรียน
- การขยายเครือข่าย : การแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ และดำเนินความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน
- ความพร้อมของนักเรียน : ผลสัมฤทธิ์รายวิชาหลักของนักเรียนในระดับ ป.6 และ ม.3 ยังต่ำกว่าเกณฑ์ระดับประเทศ มีการจัดการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศและภาษาอาเซียน จัดการแข่งขันตอบปัญหาอาเซียน พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการเรียนรู้
- ความพร้อมของครู : มีการอบรมครูด้านภาษาและกระบวนการคิด การใช้ ASEAN Curriculum เป็นการพัฒนาหลักสูตรร่วมอาเซียนในกลุ่มโรงเรียน
- การขยายเครือข่าย : การแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ และดำเนินความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน
นอกจากนี้ ได้มีข้อเสนอแนะว่า ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของครู เพิ่มการใช้หลักสูตรรวมอาเซียนในระดับมัธยมศึกษา เพิ่มบทบาทของ กศน. และทบทวนเนื้อหาสาระของการเรียนรู้ เรื่อง การอยู่ร่วมกันในประชาคมอาเซียน
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
- โครงการประชุมวิชาการนานาชาติการศึกษาพิเศษ
ที่ประชุมรับทราบการเตรียมการจัดประชุมวิชาการนานาชาติด้านการศึกษาพิเศษ : นวัตกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และการจัดการเรียนการสอน ครั้งที่ 1 (The International Conference on Special Education : Innovation to Enhance Learning Initiatives and Practices) ในระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2558 ณ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ซึ่ง สพฐ.ได้จัดร่วมกับองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO) เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนในการยกระดับการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีผู้ประชุมชาวไทยและต่างประเทศเข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น