สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.)
- การพระราชทานชื่อกระเจี๊ยบพันธุ์ใหม่ "เขียวธราธิป"
แนวคิดในการปรับปรุงพันธุ์กระเจี๊ยบเขียว เกิดจากพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการใช้เมล็ดพันธุ์ใหม่/นำพันธุ์จากต่างประเทศมาปลูกต้องใช้ทุนสูงและต้องระวังเรื่องโรค เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปที่ ศฝก. เมื่อปี 2531
นางสาวทิพวรรณ สิทธิรังสรรค์ จึงได้ศึกษาค้นคว้าและปรับปรุงพันธุ์กระเจี๊ยบเขียวภายใต้ระบบเกษตรธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผลผลิตและเมล็ดพันธุ์ที่ดี เป็นเวลานานถึง 16 ปี จนทำให้ได้กระเจี๊ยบเขียวพันธุ์ใหม่ (ศฝก.1) ซึ่งมีลักษณะเด่นที่ลำต้นมีความแข็งแรง ต้นไม่สูงมากทำให้เก็บเกี่ยวสะดวก มีความต้านทานโรคและแมลงได้ดี ให้จำนวนฝักมาก และฝักมีลักษณะห้าเหลี่ยม รสชาติดี เหมาะต่อการผลิตฝักสดจำหน่าย นอกจากนี้ฝักยังให้น้ำหนักเมล็ดสูงและมีจำนวนเมล็ดต่อฝักมาก เป็นผลดีในด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์จำหน่ายด้วย
- งานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ 124 ปี
- งานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ 124 ปี
ที่ประชุมรับทราบแผนดำเนินการจัดงาน วันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 124 ปี ในวันที่ 1 เมษายน 2559 ที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรำลึกถึงผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมีกิจกรรมหลัก 3 ส่วน คือ 1) พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 125 รูป - พิธีประกาศเกียรติคุณโดย รมว.ศึกษาธิการเป็นประธานมอบเข็มที่ระลึกเสมาคุณูปการและประกาศเกียรติบัตรแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 85 คน พร้อมอ่านสารนายกรัฐมนตรีและกล่าวคำปราศรัย - การเสวนาวิชาการ ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษาไทย รัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา หรือประเด็นอื่นๆ ที่มีความสดใหม่ ท้าทาย และน่าสนใจ
นอกจากนี้ จะมีการจัดงาน "ตลาดนัดคลองผดุงกรุงเกษม" ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้เป็นตลาดนัดชุมชน ให้เป็นพื้นที่ค้าขายสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยที่สามารถเชื่อมโยงถึงผู้บริโภคโดยตรง รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 1-24 เมษายน 2559 ณ บริเวณคลองผดุงกรุงเกษม โดยจะมีรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลายและเป็นสัดส่วน อาทิ การจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของนักเรียนนักศึกษา ประชาชน, การให้บริการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix-It-Center), จำหน่ายอุปกรณ์การเรียนการสอนของ องค์การค้าของ สกสค., โซนการแสดงทักษะความสามารถของนักเรียนนักศึกษา เป็นต้น
- นวัตกรรมการเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีพ ของชุมแพโมเดล
- นวัตกรรมการเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีพ ของชุมแพโมเดล
ที่ประชุมได้รับทราบการนำนวัตกรรม “ชุมแพโมเดล” มาใช้ในการจัดแนะนำการเรียนรู้สู่อาชีพให้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเป็นการเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาให้มากขึ้น โดยมีแนวคิดหลักที่สำคัญ 5 ข้อ คือ 1) การปรับกระบวนทัศน์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้งวิธีคิดและวิถีปฏิบัติ 2) การแนะแนวเชิงรุก 3) การแนะแนวผู้มีอิทธิพล ให้ผู้ปกครองได้รับการแนะแนวการเรียนต่อสายอาชีพร่วมกับนักเรียน 4) การมองงานเห็นรายได้ สร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและทำให้นักเรียนได้เห็นภาพจริงในอนาคต ทั้งอาชีพ ตำแหน่งงาน รายได้ และความมั่นคงในชีวิต 5) การดูแลเมล็ดพันธุ์อาชีวะ สถานศึกษาอาชีวศึกษาที่รับนักเรียนเข้าเรียน จะต้องมีปฏิสัมพันธ์ ให้ข้อมูล และมีการสื่อสารกับนักเรียนและผู้ปกครองเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
- แนวทางการดำเนินงานของ กศน.ตำบล
กศน.ตำบล จะมีการปรับบทบาทภารกิจให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและบริบทของพื้นที่ ตลอดจนรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนมากขึ้น ภายใต้การขับเคลื่อนการดำเนินงาน 4 ศูนย์เรียนรู้ ได้แก่
1) ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล เป็นศูนย์กลางการส่งเสริม จัดกระบวนการเรียนรู้ และหน่วยประสานงานแหล่งเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงภายในชุมชน ดำเนินงานร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
2) ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยประจำตำบล เพื่อสร้างการเรียนรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข โดยเฉพาะสิทธิและหน้าที่ในระบอบประชาธิปไตย บูรณาการความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และภาคประชาสังคม
3) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ซึ่งบริหารจัดการฐานข้อมูลที่จำเป็นสำหรับ กศน. และชุมชน เพื่อให้มีความรู้และรับรู้ที่เท่าทัน ปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกยุคดิจิทัล
4) ศูนย์การศึกษาตลอดชีวิตชุมชน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาในระบบการศึกษา นอกระบบการศึกษา และการศึกษาตามอัธยาศัย ให้มีคุณภาพที่สอดคล้องกับนโยบายทางการศึกษา โดยยึดชุมชนเป็นฐานในการดำเนินงาน โดย กศน.ตำบล มีบทบาทเป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวก
2) ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยประจำตำบล เพื่อสร้างการเรียนรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข โดยเฉพาะสิทธิและหน้าที่ในระบอบประชาธิปไตย บูรณาการความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และภาคประชาสังคม
3) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ซึ่งบริหารจัดการฐานข้อมูลที่จำเป็นสำหรับ กศน. และชุมชน เพื่อให้มีความรู้และรับรู้ที่เท่าทัน ปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกยุคดิจิทัล
4) ศูนย์การศึกษาตลอดชีวิตชุมชน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาในระบบการศึกษา นอกระบบการศึกษา และการศึกษาตามอัธยาศัย ให้มีคุณภาพที่สอดคล้องกับนโยบายทางการศึกษา โดยยึดชุมชนเป็นฐานในการดำเนินงาน โดย กศน.ตำบล มีบทบาทเป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น