ภายหลังการประชุม รมว.ศึกษาธิการ มอบนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และนายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมแถลงผลการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งแต่ละองค์กรหลักได้รายงานความคืบหน้าการทำงานโดยสรุป ดังนี้
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.)
1) โครงสร้างการบริหารจัดการงานวิชาการของกระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันการพัฒนาหลักสูตรแต่ละหน่วยงานแยกกันทำ ส่งผลให้ขาดเอกภาพและไม่เกิดความเชื่อมโยงกัน อีกทั้งขาดหน่วยงานกลางในการประสานให้หลักสูตรมีความสอดคล้องกันทุกระดับทุกประเภท จึงได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อไปหารือแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ และคณะทำงานชุดดังกล่าวได้มานำเสนอความก้าวหน้าต่อที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยว่าต้องมีหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบงานด้านวิชาการของกระทรวงศึกษาธิการ อาจเป็นชื่อกรมวิชาการหรือไม่ก็ได้ ส่วนโครงสร้างการบริหารงานนั้น ที่ประชุมมีข้อเสนอให้คณะทำงานกลับไปคิดต่อ 2 แบบ คือ 1) อาจจัดตั้งเป็นหน่วยงานกลางในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยนำหน่วยงานต่าง ๆ ด้านวิชาการ ทั้ง สป., สพฐ., สอศ., กศน., สช. มารวมกันว่าจะขึ้นกับ สป. หรือ สพฐ. 2) อาจจัดตั้งในรูปแบบองค์การมหาชนโดยรวม สสวท. เข้ามาด้วยเพื่อดูแลในภาพรวม อย่างไรก็ตามในระดับเขตพื้นที่การศึกษาหรือระดับจังหวัด เห็นควรจะต้องกำหนดให้มีศึกษานิเทศก์เข้ามาดูแลด้วย โดยจะต้องพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเป็นศึกษานิเทศก์ และความก้าวหน้าของสายงานศึกษานิเทศก์ด้วย
2) การปรับปรุงมาตรฐานหนังสือและตำราเรียน ที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องหนังสือเรียนในโครงการหนังสือเรียนฟรี ซึ่ง ปัจจุบันมีครูจำนวนมากยังคงสอนตามคู่มือและแบบฝึกการสอน ไม่ได้ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งบางครั้งก็ไม่เหมาะสมต่อสภาพการเรียนรู้หรือบริบทของผู้เรียนแต่ละคน ที่ประชุมจึงมีแนวคิดที่จะทบทวน ระบบการตรวจสอบหนังสือและตำราเรียนที่อนุญาตให้สำนักพิมพ์เอกชนต่าง ๆ จัดพิมพ์จำหน่าย เพราะที่ผ่านมาต้นสังกัดจะตรวจเฉพาะหนังสือเรียนเท่านั้น แต่ต่อไปจะปรับเป็นการตรวจรวมไปถึง คู่มือครู แบบฝึกหัด แผนการเรียนรู้ และแผนการจัดประสบการณ์ด้วย เพื่อให้มีคุณภาพมาตรฐานและให้มีความเชื่อมโยงระหว่างหลักสูตรทุกระดับ รวมทั้งการประเมินต้องเชื่อมโยงกับ สทศ.ด้วย โดยจะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2561
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น