เรื่องที่นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (4 มกราคม 2560)
- สถานการณ์อุทกภัยซึ่งเกิดขึ้นหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรีได้ห่วงภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้กำชับเรื่องนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และในการ
ประชุมองค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการวันนี้ (4 มกราคม) ได้สั่งการให้ข้าราชการระดับสูงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปดูแลให้ความช่วยเหลือสถานศึกษาและประชาชนอย่างเร่งด่วน - การจัดการศึกษาแก่บุตรของชาวต่างชาติ
ซึ่งอพยพเข้ามาเมืองไทยด้วยสาเหตุต่าง ๆ - ร่างพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. .... จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยนำเข้ายาจากต่างประเทศถึงปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้ข้าราชการใช้เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลมากกว่าประชาชนทั่วไปถึง 10เท่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงได้นำเรื่องนี้มาหารือถึงความต้องการใช้สมุนไพรในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมสมุนไพรได้รับการคาดการณ์ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต และทุกประเทศต่างตระหนักถึงความสำคัญของสมุนไพรและยาแผนโบราณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระบบบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุข เช่น ฟ้าทะลายโจร ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีสรรพคุณดีเยี่ยมในการป้องกันรักษาไข้หวัดใหญ่และอื่นๆ อีกมากมาย นายกรัฐมนตรีจึงฝากให้ทุกกระทรวงพิจารณาการนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้เพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งจะมีส่วนต่อการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร และเพื่อทดแทนการนำเข้ายาแผนปัจจุบันและอาหารเสริมจากต่างประเทศ โดยหน่วยงานต่าง ๆ อาจจัดให้มีตู้ยาสมุนไพร ซึ่งนอกจากจะเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการแล้ว ยังช่วย
ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรไทยด้วย - การปลูกจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงมาก จึงต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้เด็กนักเรียน รวมทั้งสามารถไปบอกพ่อแม่ผู้ปกครองให้ปฏิบัติตามกฎจราจรด้วย โดยขอให้สร้างกระแสในเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็วและต่อเนื่อง และรัฐบาลจะมีมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเช่นกันด้วย
- ขอให้ทุกกระทรวงดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดไว้แล้วตามยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาที่จะดำเนินการ 6 ด้าน คือ 1) ความมั่นคง 2) การสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3) การลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ 4) การสร้างโอกาสความเสมอภาคและการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม 5) การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6) การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ โดยกระทรวงศึกษาธิการจะมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรม ในเวลาที่เหลือตาม Roadmap ของรัฐบาลด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น