วันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ข่าวที่ 628/2560 ผลประชุมองค์กรหลัก ครั้งที่ 38/2560

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวแนะนำ นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ คนใหม่ โดยมอบหมายภารกิจหลักเป็นงานด้านการอุดมศึกษา และงานของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ.
จากนั้นได้กล่าวถึงผลประชุมคณะรัฐมนตรี และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
  • ครม. มีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอการแต่งตั้ง นายพะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เป็น โฆษก ศธ.  โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้โฆษกกระทรวงต้องมีความฉับไวต่อการให้ข้อมูล แถลงข่าวด้วยความกระชับ ชัดเจน สอดรับกับแนวทางของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งการทำงานด้านประชาสัมพันธ์ แนะนำให้เน้นการคิดใหม่ การเผยแพร่ผ่านสื่อ Social Media  เป็นหลัก เน้นการตอบที่สั้น และรวดเร็ว
  • องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่เคยปักธงแดงให้กับประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรีขอให้ตรวจสอบควบคุมหลักสูตรการบินทั้งหลายในประเทศให้มีมาตรฐานสอดคล้องกับข้อบังคับระหว่างประเทศที่จำเป็นด้านความปลอดภัย และสอดคล้องกับ ICAO โดยที่ประชุมองค์กรหลักได้มอบหมายให้นพ.อุดม คชินทร และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ติดตามดูแลเรื่องนี้
  • การเสนอโครงการของทุกกระทรวงจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ตอบคำถามได้ว่าประชาชนได้อะไรโดยไม่ควรเป็นโครงการขนาดใหญ่หรือโครงการผูกพันที่ยาวนานเกินไป ยกเว้นโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนการของบกลาง ควรใช้หลักการเติมเต็มช่องว่างเพื่อดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง สอดคล้องกับนโยบายการลดความยากจน ความเหลื่อมล้ำ สร้างความเชื่อมโยงเพื่อความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถ ตลอดจนมุ่งเน้นผู้มีรายได้น้อย
  • การจัดการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย  เน้นให้จัดหลักสูตรระยะสั้นควบคู่กับการศึกษาในระบบหลัก เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา จัดการศึกษาให้มีความทันสมัย เด็กและครูมีความสามารถในการแข่งขัน ใช้ประโยชน์จาก IT ให้มากขึ้น และเน้นให้เกิดความร่วมมือกับภาคธุรกิจหรือเอกชนมากขึ้น
  • โครงการ Big Data   ซึ่งรัฐบาลให้เวลาดำเนินการ 3 เดือน ขณะนี้ผ่านไปแล้ว 1 เดือน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. เพื่อรวบรวมข้อมูลของแต่ละส่วนราชการเพื่อเชื่อมโยงกันให้ได้
  • ให้ทุกกระทรวงสอดส่องดูแลข้าราชการทุกระดับ ทุกพื้นที่  ให้เน้นการทำงานเต็มที่ หากเกิดเกียร์ว่าง ให้พิจารณาปรับย้ายตามความเหมาะสม
  • ขอให้ขับเคลื่อนการทำงานของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)  ให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการพัฒนา บูรณาการการศึกษาภายในจังหวัด ประเมินการศึกษาของสถานศึกษาทุกสังกัดในจังหวัด และร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงมหาดไทย (มท.)
       ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือการทำงานของ กศจ. ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี ในการปรับแก้คำสั่ง คสช. ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ลดความขัดแย้งกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยอาจจะมีการพิจารณาตั้ง 2 คณะกรรมการ คือ 1) คณะกรรมการด้านการบริหาร กำกับ และบูรณาการ 2) คณะกรรมการด้านการบริหารบุคคล ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม ส่วนการทำงานของศึกษาธิการภาคนั้น รมว.ศึกษาธิการ ได้หารือกับ รมช.ศึกษาธิการ (พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) แล้ว เห็นควรให้คงไว้ 6 ภาค โดยให้รอง ศธภ. ที่มีอยู่ ดำรงตำแหน่งรอง ศธภ. และให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค เพื่อสามารถขับเคลื่อนงานไปได้พร้อมกัน
  • ปัจจุบันประเทศไทยใช้ครูปีละประมาณ 20,000 คน แต่มีการผลิตครูปีละ 40,000 คน หากลดการผลิตลงเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มคุณภาพต่อหัวได้ รมว.ศึกษาธิการ จึงได้มอบหมาย รมช.ศึกษาธิการ (นพ.อุดม คชินทร) และ สกอ. กำกับดูแลหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการพัฒนาครู ได้มอบหมายให้ กศจ. กำกับติดตามข้าราชการครูภายในจังหวัดว่ามีความต้องการอย่างไร และขาดแคลนเรื่องใด
  • ขอให้ทุกโรงเรียนมี Hi-Speed Internet ใช้งาน และสอนเรื่อง Active Learning ความมีวินัย มีจิตอาสา ดำเนินตามพระบรมราโชบายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร เช่น การยกระดับมหาวิทยาลัยราชภัฎให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด ตลอดจนนำเอาสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันอาชีวศึกษา เข้ามาร่วมมือด้วย
  • ให้ทุกกระทรวงมีคณะทำงานพิเศษ ที่สำนักงานปลัดกระทรวง  เพื่อเชื่อมโยงกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ในสวนของกระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (นายการุณ สกุลประดิษฐ์) เป็นประธานคณะทำงานพิเศษ โดยมีรองเลขาธิการจาก สกอ. สอศ. สพฐ. เป็นเลขานุการ
  •  ของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน  ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการนั้น รมว.ศึกษาธิการ ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันคิดโดยเน้นให้เกิดประโยชน์ต่อเด็กและประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การจัดหลักสูตรระยะสั้นของหน่วยงานหลักร่วมกับภาคเอกชน จัดทำเว็บไซต์ติวฟรีดอทคอมให้นักเรียนสามารถเรียนที่ไหนก็ได้ โครงการ Fix-ICenter ควบคู่การให้ความรู้ประชาชน เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น: