วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ครม. ตีกลับ มาตรการลดภาษี ส่งเสริมการอ่าน ตามวาระแห่งชาติ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. ได้พิจารณาเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอมาตรการเชิงรุกด้านภาษี เพื่อส่งเสริมให้มีการอ่านตลอดชีวิต โดยเสนอระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องขอใช้มาตรการทางภาษี เพื่อเป็นมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมการอ่าน ซึ่งมีมาตรการจูงใจให้ผู้ผลิตหนังสือหรือสื่อ เพื่อการลดหย่อนภาษีเป็น 2 เท่า แต่ไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินรายได้ที่มาคำนวณ ในการหักภาษีเช่นเดียวกับกรณีนิติบุคคล หากมีการบริจาคก็สามารถลดหย่อนภาษีได้เป็น 2 เท่า แต่ไม่เกินร้อยละ 30 มาตรการสำหรับผู้ซื้อหนังสือให้กับตนเอง หรือให้แก่องค์กรต่างๆ โดยกรณีบุคคลธรรมดา จะได้รับการลดหย่อนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี ส่วนกรณีนิติบุคคล จะได้รับการลดหย่อนไม่เกินร้อยละ 30 และมาตรการจูงใจสำหรับผู้ผลิตหนังสือรวมถึงนิตยสาร ซึ่งเป็นการเปลี่ยนมาเป็นฐานภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 0 ให้แก่ผู้ผลิตหนังสือและสื่อเพื่อการศึกษา

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า มาตรการดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ จากการลดหย่อนภาษีประมาณ 350 ล้านบาท แต่หากมีการรณรงค์ให้มีการบริจาคหนังสือ หรือซื้อหนังสือมาอ่านให้มากขึ้น ก็จะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาในเรื่องการอ่านอย่างยั่งยืนต่อไป ที่สำคัญยังสนองตอบต่อการส่งเสริมการอ่าน ให้เป็นวาระแห่งชาติตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2552 ที่กำหนดให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ และกำหนดให้วันที่ 2 เม.ย. ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นวันรักการอ่าน รวมถึงกำหนดให้

ปี 2552-2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่าน อย่างไรก็ตามที่ ครม. ยังไม่เห็นชอบมาตรการดังกล่าว เนื่องจากมีประเด็นในเรื่องการเปลี่ยนฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม มาเป็นร้อยละ 0 ตลอดถึงการจูงใจในการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่ซื้อหนังสือมาอ่านเอง จึงให้กระทรวงการคลัง และ ศธ. ไปหารือในรายละเอียด พร้อมกับจัดทำข้อมูลในเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนภายใน 30 วัน ก่อนจะนำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ครม.ไม่ได้ติดใจในแง่ของรัฐต้องเสียรายได้จากการลดหย่อนภาษี แต่ให้กลับมาหารือในรายละเอียดเพื่อดูมาตรการในการจูงใจอย่างรอบด้านอีกครั้ง.

ไม่มีความคิดเห็น: