วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ผลประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ ๔/๒๕๕๔

พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔

รมว.ศธ.กล่าวว่า จากการที่ พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ประกาศใช้ในพระราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๔ และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ (คลิ้กดูรายละเอียด)

ที่ประชุม ก.ค.ศ.จึงได้เร่งนำเรื่องนี้มาพิจารณา เพื่อสิทธิประโยชน์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัดทุกประเภท โดยมีมติดังนี้

เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการปรับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (มาตรา ๖) เข้าตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อให้ส่วนราชการถือปฏิบัติ และเมื่อ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีสภาพใช้บังคับโดยสมบูรณ์ และใช้หลักเกณฑ์และวิธีการปรับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์แนบท้าย จะเกิดผลดีในช่วงปรับเปลี่ยนเข้าสู่ พ.ร.บ.เงินเดือนใหม่ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ระบบบัญชีเงินเดือนแบบกำหนดค่ากลางและฐานการคำนวณเงินเดือน ซึ่งจะมอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ศึกษาค่ากลางที่เหมาะสมให้ได้ผลเป็นที่ยุติก่อน

เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการปรับเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (มาตรา ๕) เข้าสู่อัตราในบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูง ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ท้ายพระราชกฤษฎีกาการปรับเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

อนุมัติให้เลื่อนเงินเดือนประจำปีของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ใช้การเลื่อนเงินเดือนเป็นแบบขั้นเงินเดือนตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๐ โดยให้ใช้ฐานเงินเดือนเดิม และเลื่อนเงินเดือนตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๐ ไปพลางก่อน จนกว่า ก.ค.ศ.จะกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเลื่อนเงินเดือนประจำปี ตาม พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔

อนุมัติให้เลื่อนเงินเดือนประจำปีของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ใช้การเลื่อนเงินเดือนเป็นแบบขั้นเงินเดือนตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๐ ก่อน แล้วจึงปรับเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (มาตรา ๕) เข้าสู่อัตราในบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ท้ายพระราชกฤษฎีกาการปรับเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

จากหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว จะทำให้ข้าราชการครูจำนวนกว่า ๓๙๑,๑๗๙ คน ได้รับการปรับเงินเดือนเพิ่ม ๘% ตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ รวมทั้งข้าราชการครูฯ ที่มีเงินเดือนต่ำกว่าอันดับเงินเดือนขั้นต่ำจะได้ปรับเช่นเดียวกัน แต่ได้มอบให้ ก.ค.ศ.ไปดูหลักเกณฑ์และวิธีการที่จะใช้วิธีพอกขั้นเงินเดือนให้ข้าราชการครูกลุ่มนี้ที่มีอยู่ประมาณ ๑๔,๔๒๘ คนด้วย ส่วนกลุ่มครูผู้ช่วยที่มีอยู่ประมาณ ๒๗,๐๐๐ คนนั้น จะไม่ได้ปรับเงินเดือน ๘% ในคราวนี้ และเมื่อถึงวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ศธ.ทุกราย จะได้รับการปรับขั้นเงินเดือนตามปกติ และหลังจากนั้นจึงจะปรับเพิ่มให้อีก ๕% ตามมติ ครม.ที่ให้ปรับโครงสร้างเงินเดือนดัชนีค่าครองชีพของข้าราชการอีกด้วย

เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และคู่มือการประเมินฯ

รมว.ศธ.กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาดังนี้

เห็นชอบในหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ รวมทั้งคู่มือการประเมินทั้ง ๔ สายงาน

เห็นชอบให้ส่วนราชการเสนอรายชื่อได้เพียงครั้งเดียวในคราวเดียวกัน โดยให้เสนอผ่านจากสถานศึกษา หน่วยงานทางการศึกษา จนถึงต้นสังกัด โดยให้ต้นสังกัดกลั่นกรองเพื่อรับฟังคำคัดค้านทางเว็บไซต์ของสังกัดนั้นๆ ภายใน ๑๕ วัน หลังจากนั้นให้ส่งเอกสารถึงสำนักงาน ก.ค.ศ.ในคราวแรก ภายในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๔

การดำเนินการในการประเมิน ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ขอความเห็นชอบจาก ก.ค.ศ.ในการประเมินเป็นคราวๆ ไปตามคำขอที่ต้นสังกัดได้ส่งมา

เห็นชอบให้รัฐมนตรีขอความร่วมมือให้ส่วนราชการต้นสังกัดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเมินของคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ และให้สำนักงาน ก.ค.ศ.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการประชุมและค่าตอบแทนในการตรวจและประเมิน

ให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ติดตามประเมินผลและสรุปรายงาน ในการดำเนินการประเมินผลงานเชิงประจักษ์ต่อที่ประชุม ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณาต่อไป

หนังสือรับรองสิทธิของคุรุสภา

รมว.ศธ.กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมติคณะกรรมการคุรุสภาที่ยืนยันว่า "ผู้ถือหนังสือรับรองสิทธิของคุรุสภา เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้เช่นเดียวกับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา สามารถใช้เป็นหลักฐานในการสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้"

อย่างไรก็ตาม อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคลได้พิจารณาแล้ว มีมติไม่เห็นชอบ เนื่องจากมีบางส่วนราชการ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงาน กศน.ได้ดำเนินการรับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วยแล้ว

ดังนั้น หากเห็นชอบตามที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเสนอ จะเกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะเกิดความไม่เป็นธรรมกับกลุ่มที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: