วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คอลัมน์: สถานี ก.ค.ศ.: ทบทวนเกณฑ์ย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสังกัด สพฐ.ใหม่

สำหรับสถานี ก.ค.ศ.ในสัปดาห์นี้ จะขอนำเรื่องที่อยู่ในความสนใจของเพื่อนครูและผู้บริหารสถานศึกษา มาให้ทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจากตามที่ได้มีการประชุม ก.ค.ศ.เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2554 ที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้มติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้มีหนังสือแจ้งเวียนหลักเกณฑ์ไปแล้ว ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว9 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2554 โดยสรุปสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ ดังนี้

1.กำหนดขนาดของสถานศึกษาทั้งระดับมัธยมศึกษาและระดับประถมศึกษา เป็น 4 ขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็ก มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่499 คนลงมา ขนาดกลาง จำนวนนักเรียนตั้งแต่ 500-1,499 คนขนาดใหญ่ จำนวนนักเรียนตั้งแต่ 1,500-2,499 คน และขนาดใหญ่พิเศษ จำนวนนักเรียนตั้งแต่ 2,500 คนขึ้นไป สำหรับสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ที่จัดการเรียนการสอนในระบบเรียนประจำและไป-กลับ หากมีการสอนประจำมากกว่า 60% ให้คิดจำนวนนักเรียนเป็น 3 เท่า หากน้อยกว่า 60% คิดจำนวนนักเรียนเป็น 2 เท่า สำหรับสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนให้กับเด็กพิการ ให้คิดจำนวนนักเรียนเป็น 4 เท่า ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีความสามารถในการบริหารสถานศึกษา มีโอกาสย้ายไปดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาขนาดต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม

2.กำหนดประเภทสถานศึกษา เป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1)สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 2)สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 3)สถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ และ 4)สถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษและสถานศึกษาคุณภาพพิเศษ ซึ่งเดิมมี 3 ประเภท คือ กลุ่มสถานศึกษาสายประถมศึกษา กลุ่มสถานศึกษาสายมัธยมศึกษา และกลุ่มสถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ

3.กำหนดให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายไปทุกสังกัด โดยกำหนดองค์ประกอบให้มีความเหมาะสมทั้งกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและจำนวน เพื่อให้การดำเนินการกลั่นกรองเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม

4.ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นผู้ประกาศรายชื่อสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ และสถานศึกษาคุณภาพพิเศษในปี พ.ศ.2554 ภายในวันที่ 8 สิงหาคม 2554

5.ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แล้วแต่กรณี ประกาศรายชื่อสถานศึกษาที่ต้องการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ในปี พ.ศ.2554 ภายในวันที่ 8 สิงหาคม 2554

6.กำหนดคุณสมบัติของผู้ขอย้าย เกี่ยวกับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยกำหนดว่าต้องดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี

7.กำหนดเวลาในการยื่นคำร้องขอย้ายในปี พ.ศ.2554 เห็นควรกำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้ายในระหว่างวันที่ 9-19 สิงหาคม 2554 เพื่อให้สอดคล้องกับการประกาศรายชื่อสถานศึกษาตามข้อ 4 และข้อ 5 โดยคำร้องขอย้ายดังกล่าวให้ใช้พิจารณาย้ายได้ไม่เกินวันที่ 31 กรกฎาคม2555 สำหรับการยื่นคำร้องขอย้ายในปีต่อไปให้ดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายฯ ดังกล่าว

สำหรับความกังวลใจที่ว่าจะทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาขนาดเล็กที่มีศักยภาพทางการบริหารสูง ไม่สามารถจะขอย้ายข้ามขนาดสถานศึกษาได้นั้น ขอเรียนว่า ก.ค.ศ.ได้ให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าของผู้บริหารสถานศึกษาที่มีศักยภาพสูงให้สามารถย้ายไปสถานศึกษาที่ต่างกลุ่ม หรือข้ามขนาดสถานศึกษาเกินกว่า 1 ขนาดที่ตนเองดำรงตำแหน่งอยู่ได้ และไม่ได้เป็นการลดทอนอำนาจการพิจารณาของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาแต่อย่างใด จึงขอทำความเข้าใจมาให้ทราบโดยทั่วกัน

ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

ไม่มีความคิดเห็น: