วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

'เสริมศักดิ์' จี้อกคศ. คุ้ยลึกรายเขตพื้นที่เชื่อ 'ครูผช.' โกงจริง


 'เสริมศักดิ์' เร่งรัด อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯ สืบสวนทุจริตครูผู้ช่วย สั่งคณะกรรมการ ศธ.สอบเจาะลึกรายเขตพื้นที่ เชื่อโกงสอบจริง อีสานเยอะสุด ปธ.สภาคณบดีครุศาสตร์ฯจี้ ศธ.ลงโทษคนผิด
          เมื่อวันที่ 15 เมษายน นายเสริมศักดิ์ พงษ์ พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนกรณีการทุจริตครูผู้ช่วย ที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงศึกษาฯ ชุดที่นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็นประธานลงไปสอบสวน รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมสืบสวนสอบสวนด้วยว่า
          หลังช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ตนจะเร่งรัดให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ การศึกษาทุกเขต ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตสอบครูผู้ช่วย และทยอยส่ง ผลการสอบข้อเท็จจริงมายังส่วนกลางให้เร็ว ที่สุด
          "ขณะเดียวกันได้มอบให้คณะกรรมการสอบ สวนข้อเท็จจริงของ ศธ.ชุดที่นายพิษณุ เป็นประธาน ไปดำเนินการสอบสวน แบบเจาะลึก ลงรายละเอียดในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาด้วยซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาที่จะลงไปสอบสวน แต่อาจจะมีปัญหาบ้างในบางเขตพื้นที่การศึกษาที่กรรมการ อ.ก.ค.ศ.เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตการสอบด้วย จึงอาจเป็นอุปสรรคกับการสอบสวนข้อเท็จจริง" นายเสริมศักดิ์กล่าว และว่า ส่วน กรณีที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมาเขต 7 เชื่อว่าการสอบ ครูผู้ช่วยที่ผ่านมา ส่อไปในทางทุจริต และมีกรรมการคนหนึ่งออกมายอมรับว่า ได้รับข้อสอบกรรมการคนหนึ่งออกมายอมรับว่า ได้รับข้อสอบครูผู้ช่วยมาจากคนใน สพฐ. นั้นเชื่อว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ จะนำข้อมูลที่ได้ไปสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนที่ สพป.นครราชสีมา เขต 7 จะขอขยายเวลาสอบข้อเท็จจริงนั้นให้ทำเรื่องขอมายังส่วนกลาง คาดว่าจะสามารถขยายได้อีกประมาณ 15 วัน
          "เชื่อว่าหลังสงกรานต์ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ต่างๆ น่าจะทยอยส่งข้อมูลการสอบสวนมา ยังส่วนกลาง เท่าที่ทราบส่วนใหญ่ค่อนข้าง ชัดเจนแล้วว่ามีกระบวนการที่ส่อไปในทางทุจริตจริง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ทางภาคอีสาน แต่ยังไม่มีใครรายงานมาอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อเปิดทำงานแล้วผมจะเร่งรัดเขตพื้นที่การศึกษาให้ส่งข้อมูลโดยเร็วที่สุด" นายเสริมศักดิ์ กล่าว
          นายสุรวาท ทองบุ คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) มหาสารคาม ในฐานะประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) กล่าวว่า การทุจริตสอบครูผู้ช่วยที่ผ่านมาอยากให้ ศธ.เร่งหา ตัวคนทุจริตมาลงโทษโดยเร็วเพราะไม่เช่นนั้นนักศึกษาที่เรียนสายครุศาสตร์ และศึกษาศาสตร์และตั้งใจสอบเข้ามาเป็นครูจะผิดหวังและหมดกำลังใจรวมถึงท้อแท้ และหมดศรัทธาและขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการจัดสอบครูของ ศธ.โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้จะสอบครูผู้ช่วยกรณี ทั่วไปแล้ว ดังนั้นตนเห็นว่าควรจะทำให้เรื่องดังกล่าวคลี่คลายโดยเร็ว ขณะเดียวกันหากปล่อยให้คนที่ทุจริตการสอบเข้าไปเป็นครูในระบบแล้ว จะส่งผลกระทบกับคุณภาพการศึกษาในอนาคต เพราะจะได้คนไม่เก่ง แถมยังไม่มีคุณธรรมไปเป็นครู
          "เมื่อแน่ใจว่ากระบวนการจัดสอบมีการทุจริตจริง ผมคิดว่า ศธ.ในฐานะที่กำกับดูแลภาพรวมทั้งหมด น่าจะสามารถสั่งยกเลิกการสอบทั้งหมดได้ แต่วิธีการที่จะแก้ปัญหาได้ดีที่สุดคือ เปลี่ยน รูปแบบการรับครูจากการสอบมาเป็นผ่านโครงการครูมืออาชีพแทนเพราะถือว่าครูที่ผ่านการเรียนตามโครงการดังกล่าวจะได้ผ่านกระบวนการ บ่มเพาะที่ดีแล้ว" ประธาน ส.ค.ศ.ท.กล่าว
มติชน ฉบับวันที่ 17 เม.ย. 2556

คอลัมน์: ข้าราษฎร: มาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณครู ฉบับใหม่วุฒิผู้บริหารฯต้องไม่ต่ำกว่า ป.โท (2)
          ว่าเรื่องการแก้ไขปรับปรุงข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ ฉบับเดิมเพื่อออกเป็นฉบับใหม่ต่อจากเมื่อวาน
          มาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามข้อบังคับคุรุสภาฉบับเดิมที่ใช้อยู่ขณะนี้มีสาระอย่างไร คงหาได้ไม่ยากจากประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 122 ตอนพิเศษ 76 ง. วันที่ 5 กันยายน 2548
          ร่างข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพฉบับใหม่ บัญญัติให้ผู้ประกอบวิชาชีพครู ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาหรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง (คงเดิม) โดยมีมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ดัง ต่อไปนี้
          มาตรฐานความรู้ ประกอบด้วย บูรณาการของความรู้และสมรรถนะไม่น้อยกว่าหัวข้อต่อไปนี้ (1) ความรู้วิชาชีพครู 1.1 ความเป็นครู 1.2 ปรัชญาการศึกษา 1.3 ภาษาและวัฒนธรรม 1.4 จิตวิทยาสำหรับครู 1.5 หลักสูตร 1.6 การจัดการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ 1.7 การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ 1.8 นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา 1.9 การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ 1.10 การประกันคุณภาพการศึกษา 1.11 คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ
          (2) ความรู้วิชาเอกผู้ประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาโททางการบริหารการศึกษาหรือเทียบเท่า (ข้อบังคับเดิมไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี) หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง โดยมีมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ดังต่อไปนี้
          มาตรฐานความรู้ ไม่น้อยกว่าหัวข้อต่อไปนี้ 1 การพัฒนาวิชาชีพ 2 ความเป็นผู้บริหาร 3 การบริหารสถานศึกษา 4 หลักสูตร การสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 5 กิจการและกิจกรรมนักเรียน 6 การประกันคุณภาพการศึกษา 7 คุณธรรม จริยธรรมและ จรรยาบรรณ
          มาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพ ยังคงเดิม คือ มีประสบการณ์สอนมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี หรือมีประสบการณ์การสอนและต้องมีประสบการณ์ในตำแหน่งหัวหน้าหมวด หรือหัวหน้าสาย หรือหัวหน้างาน หรือตำแหน่งบริหารอื่นๆ ในสถานศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี 
มติชน ฉบับวันที่ 17 เม.ย. 2556

ไม่มีความคิดเห็น: