วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เรียกบัญชี 55-56 บรรจุครูผู้ช่วย

นายอภิชาติ จีระวุฒิเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมการเพื่อคัดเลือกบุคคล เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรณีที่มีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 ลอตใหม่ว่าขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ทำเรื่องขออนุมัติคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อขอจัดสอบเป็นกรณีพิเศษแล้ว และจะนำเข้าอ.ก.ค.ศ.ระบบ ในวันที่ 28 พ.ย.56 อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้จะมีการเกลี่ยและโยกย้ายครูประจำปี ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พ.ย.56 จากนั้นจะมีการเรียกผู้สอบแข่งขันที่ขึ้นบัญชีไว้ตั้งแต่ปี 2555 และปี 2556 มาบรรจุให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค.56 โดย สพฐ.จะเป็นผู้ดำเนินการเรียกบรรจุให้ตามบัญชีที่มีอยู่ รวมถึงจะมีการสรรหาศึกษานิเทศก์ ในตำแหน่งที่ว่างกว่า 1,000 อัตราซึ่งจะทำให้มีอัตราครูว่างเพิ่มขึ้นอีก หลังจากนั้นจะมาพิจารณากันต่อไปว่าจะต้องเปิดสอบครูผู้ช่วยในสาขาวิชาใดบ้าง
          "สพฐ.จะพยายามดำเนินการจัดสอบและเรียกบรรจุให้แล้วเสร็จ ภาย ในเดือน ม.ค. หรือ ก.พ.57 และให้ไปปฏิบัติงานได้ในเดือน พ.ค.57 เพื่อไม่ให้กระทบกับโรงเรียนเอกชน กรณีที่ครูโรงเรียนเอกชนสอบบรรจุได้และลาออก ซึ่งวิธีการนี้ถือเป็นแนวทางใหม่ที่ สพฐ.ดำเนินการ เพราะที่ผ่านมามักจะเรียกบรรจุในเดือน พ.ค. ซึ่งทำให้โรงเรียนเอกชนได้รับผลกระทบอย่างมาก" นายอภิชาติ กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

30:70 วัดผลกลาง+ปลายภาค'จาตุรนต์'ชี้สะท้อนคุณภาพนร.อย่างแท้จริง/ร.ร.เล็กอย่ากังวล

          ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรีเมื่อวันที่ 13 พ.ย.56 นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมเพื่อขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงศึกษาธิการสู่การปฏิบัติ "การรวมพลังยกระดับคุณภาพการศึกษา" ประจำปี2556 ว่าที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ไม่มีการทดสอบกลางที่เป็นมาตรฐาน จึงทำให้ไม่มีใครทราบว่าคุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศเป็นอย่างไร จึงจำเป็นต้องให้มีการสอบวัดผลกลางโดยขณะนี้ทุกฝ่ายเห็นด้วยว่าควรจะมีการวัดผลกลาง ซึ่งจากการหารือเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะใช้การสอบวัดผลกลางควบคู่กับการสอบปลายภาคเรียน โดยในปีการศึกษา 2557 จะจัดสอบในสัดส่วน30 : 70 และจะเพิ่มเป็น 50 : 50 ในปีการศึกษา 2558 เป็นต้นไป ส่วนจะจัดสอบในระดับชั้นใดบ้างนั้นได้มอบให้นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบและการวัดผล ไปพิจารณารายละเอียดและนำกลับมาเสนออีกครั้ง
          "มีหลายฝ่ายกังวลว่าการสอบวัดผลกลาง จะเกิดความไม่ยุติธรรมต่อเด็กที่เรียนอยู่ในโรงเรียนห่างไกล ซึ่งผมยืนยันว่าการสอบดังกล่าวไม่ได้มีจุดมุ่งหมายให้เด็กตก หรือคัดเด็กที่แย่ๆ ออกไป และไม่ใช่สอบเพื่อให้เกิดปัญหาแบบแพ้คัดออกหรือแข่งขันกันแบบบ้าเลือด แต่ต้องการสอบเพื่อให้รู้ผลการจัดการศึกษาของประเทศรวมทั้งครูจะได้รู้ว่านักเรียนของตนเองเป็นอย่างไร และจะต้องปรับปรุงในส่วนใดบ้าง ส่วนโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลเราก็จะพัฒนาให้ดีขึ้นโดยมีการปรับระบบเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน" นายจาตุรนต์ กล่าว
          ด้านนางอ่องจิต เมธยะประภาส รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ข้อสอบวัดผลกลางที่จะใช้ในปี 57 ในสัดส่วน30% นั้นจะเป็นข้อสอบที่ร่วมกันพัฒนาจาก สพฐ., สทศ. สสวท. 15% และเขตพื้นที่ฯ กับโรงเรียนอีก 15% ส่วนอีก70% นั้นจะเป็นการสอบปลายภาคเรียนจิตพิสัย คะแนนเก็บ เป็นต้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ


ศธ.เตรียมคลอด'เงินรายหัว'ใหม่

          เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายกิตติ ลิ่มสกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิด เผยถึงความคืบหน้าการปรับเงินอุดหนุนรายหัวการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า ได้ประชุมคณะทำงานหลายรอบแล้ว และกำลังสรุปเรื่องทั้งหมดให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า ว่า เงินอุดหนุนรายหัวของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะมีอัตราที่ปรับเพิ่มขึ้นเท่าไร โดยหลักการจะต้องบริหารจัดการภายใน ศธ.ก่อน และให้ใช้บุคลากรให้เป็น ประโยชน์เต็มที่ จะได้ไม่ใช้งบเพิ่ม แต่หากจำเป็นต้องใช้งบ ก็จะจัดเพิ่มให้โดยจะเสนอต่อรัฐบาล ซึ่งทั้งหมดจะต้อง จัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่อง เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะที่ 1 ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณา ต่อไป
          "นอกจากนี้ จะจัดสรรงบอุดหนุนให้โรงเรียนในแต่ละกลุ่มด้วย อย่างกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนชายขอบ พื้นที่ชนบทห่างไกล จะมีรูปแบบโมเดลจัดการศึกษาร่วมกันและจัดสรรเงินก้อนไปให้เพื่อยกระดับคุณภาพ ส่วนกลุ่มโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม จะให้เสรีในการระดมทรัพยากรทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้น จะได้ไม่ต้องพึ่งพางบประมาณแผ่นดินและจะทำให้มีเงินเหลือจากการจัดสรรให้โรงเรียนกลุ่มนี้ นำไปจัดสรรให้โรงเรียนขนาดเล็กแทนได้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ.กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

จ่ายวิทยฐานะและค่าตอบแทนครู เลขาฯ กพฐ.แจงต้องให้เสร็จก่อนสิ้นปี

          นายอภิชาต จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ). ได้ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)และโรงเรียนที่เป็นหน่วยเบิก เบิกจ่ายเงินวิทยฐานะและค่าตอบแทนรายเดือนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติที่ผู้มีอำนาจลงนามคำสั่งแต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 ทุกวิทยฐานะ ส่วนผู้ที่ได้รับวิทยฐานะเพิ่มรายใหม่ โดยมีผู้มีอำนาจลงนามคำสั่งแต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นมา ให้ชะลอการเบิกจ่ายไว้ก่อนนั้น
          เนื่องจากงบประมาณ ปี พ.ศ.2557 ได้รับงบประมาณจำกัดและมีเพียงพอสำหรับเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะและค่าตอบแทนรายเดือนให้กับข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาสำหรับผู้ที่มีวิทยฐานะ และค่าตอบแทนรายเดิม และมีคงเหลือสำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติให้มีวิทยฐานะรายใหม่ โดยผู้มีอำนาจลงนามคำสั่งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 สพฐ. จึงให้ สพท. และโรงเรียนที่เป็นหน่วยเบิกดำเนินการได้โดยเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะครูและค่าตอบแทนรายเดือนให้กับผู้เกษียณอายุปกติ และเกษียณอายุก่อนกำหนดถึงแก่กรรม ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ต้องได้รับเงินตกเบิกให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ซึ่งการเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะและค่าตอบแทนรายเดือน สำหรับผู้ที่ได้รับวิทยฐานะที่มีอำนาจลงนามคำสั่งแต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ทุกวิทยฐานะ ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 และผู้ที่ได้รับอนุมัติให้มีและเลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้น และได้เบิกจ่ายวิทยฐานะที่ได้รับอยู่เดิมต้องได้รับเงินตกเบิกเฉพาะส่วนที่ต้องเบิกเพิ่ม ส่วนผู้ที่ได้รับให้มีและเลื่อนวิทยฐานะที่ผู้มีอำนาจลงนามคำสั่งแต่งตั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นมา ให้ชะลอการเบิกจ่ายไว้ก่อนจนกว่า สพฐ. จะได้รับงบประมาณและจะแจ้งให้ สพท. และโรงเรียนทราบต่อไป
          "การเบิกจ่ายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนที่เป็นหน่วยเบิก ให้เบิกจ่ายเงินวิทยฐานะและค่าตอบแทนรายเดือน (ตกเบิก) แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 พร้อมทั้งรายงานข้อมูลการเบิกจ่ายจริง ส่งถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภายในวันที่ 8 มกราคม 2557 และให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะและค่าตอบแทนรายเดือนให้ถูกต้องตามที่กำหนด และเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด หากมีการตรวจภายหลังพบว่าดำเนินการไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายดังกล่าว เจ้าหน้าที่รับผิดชอบอาจต้องถูกดำเนินการทางวินัยและต้องรับผิดในทางแพ่งด้วย" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: