รมว.ศธ.กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้
1- การปฏิรูปหลักสูตร รมว.ศธ.ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สร 862/2556 ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2556 โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการย่อยรวม 3ชุด คือ 1) คณะกรรมการกำหนดวิสัยทัศน์การปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมี รมว.ศธ.เป็นประธาน 2) คณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำราการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมี ศ.พิเศษภาวิช ทองโรจน์ เป็นประธาน และ 3) คณะทำงานจัดทำรายละเอียดหลักสูตร โดยมี ผศ.ประพจน์ อัศววิรุฬหการ เป็นประธานคณะทำงาน
2 - การปฏิรูปการเรียนการสอน ศธ.ได้มีการรวบรวมองค์ความรู้ที่เป็น Best Practices ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ มีการนำมาจัดทำเป็นนิทรรศการเผยแพร่ รวมทั้งมีการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เกี่ยวข้อง อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
5 - การประเมินวิทยฐานะและความก้าวหน้าในวิชาชีพครู ก็ควรจะต้องเชื่อมโยงกับหลักสูตรการเรียนการสอน
ทั้งนี้ รมว.ศธ.ได้ขอให้ที่ประชุมช่วยพิจารณาวิธีและกระบวนการที่เหมาะสมในการออกแบบ จัดทำ ปรับปรุงหลักสูตร การนำหลักสูตรไปใช้ และการประเมินผล ดังนี้
- ขอให้มีกระบวนการ ส่งต่อ ( Transition Process ) หลักสูตร ก่อนนำไปใช้ ตามปกติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะต้องเป็นผู้รับรองหลักสูตร และต้องเสนอให้ รมว.ศธ.ลงนามก่อนประกาศใช้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงฝากว่าเมื่อจัดทำหลักสูตรเสร็จแล้วจะมีการส่งต่อ ( Transition Process ) ให้หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ สพฐ. สสวท.ฯลฯ ได้อย่างไรบ้าง ไม่ใช่เพียงให้ สพฐ. มาเซ็นรับ แต่เมื่อนำไปแล้ว สพฐ.ก็ไม่รู้จะไปชี้แจงต่อผู้เกี่ยวข้องได้อย่างไร
- ควรให้หน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง เช่น คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ฯลฯ เพราะเท่าที่ตนรับฟังมา แม้จะมีการประชุมรับฟังที่เป็นการรวบรวมข้อมูลจากการสนทนากลุ่ม (Focus Group) มาแล้วหลายจุด พบว่ายังมีความเห็นต่างกันมากในเรื่องหลักสูตร บางรายเห็นว่าหลักสูตรในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร บางรายอาจจะเห็นว่าต้องปรับปรุงเป็นบางส่วน ฯลฯ ดังนั้นหากจัดให้มีการประชุมแสดงความคิดเห็น (Forum) ที่เหมาะสมให้แก่ผู้เกี่ยวข้องมากๆ ได้มาพูดคุยหารือร่วมกันในประเด็นตั้งแต่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 จนถึง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนหลักสูตรอย่างไรบ้าง
- ให้คนทั้งสังคมเข้ามามีส่วนร่วม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะหลักสูตรเกี่ยวข้องกับเด็กนักเรียน ครู ผู้ปกครองทุกคน หากประชาชนในวงกว้างได้รับความรู้ความเข้าใจในความจำเป็น เนื้อหา รายละเอียดของการปรับปรุงหลักสูตร ก็จะสร้างความเข้าใจ เห็นดีเห็นงามตามไปด้วย ซึ่งส่งผลให้การปฏิรูปหลักสูตรประสบผลสำเร็จ ไม่เป็นอุปสรรค และที่สำคัญคือเป็นไปตามนโยบายของ ศธ.ที่ต้องการให้กระบวนการต่างๆ ในการปฏิรูปการศึกษา ต้อง อาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของ ศธ. และคนทั้งสังคม เข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น
ข่าวจากสำนักงานรัฐมนตรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น