วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 1/2557


ศึกษาธิการ - นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 29 มกราคม2557 ณ ห้องประชุมโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี

  • การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2557
ที่ประชุมเห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยมีสาระสำคัญ คือ
1.  ให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษาจัดสอบเอง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด อาจรวมกลุ่มออกข้อสอบ หรือให้มหาวิทยาลัยราชภัฏมาช่วยออกข้อสอบในภาค ข. ได้
2.  ผู้สมัครมีสิทธิ์สมัครสอบได้หลายแห่ง
3.  ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน (วันที่อนุมัติปริญญาบัตร) ในวันที่รับสมัครวันสุดท้ายได้
4.  ให้ดำเนินการสอบภาค ก. และ ข. ก่อน หากผ่านจึงจะมีสิทธิ์สอบภาค ค.
5.  การสอบภาค ก.(150 คะแนน) และ ค. (50 คะแนน) เหมือนการสอบครั้งที่ผ่านมา เปลี่ยนเฉพาะภาค ข.(ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง)150 คะแนน ซึ่งเน้นหลักการสอนที่เน้นการสอนคิดวิเคราะห์และการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
6.  สาขาวิชาที่เปิดสอบในแต่ละเขตพื้นที่ฯ ขอให้เขตพื้นที่การศึกษาสำรวจข้อมูล เพื่อเปิดสอบในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่ขาดแคลน ตามภาพรวมของประเทศด้วย

การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
 -  ที่ประชุมเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และหลักสูตรการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา โดยมีสาระสำคัญ เช่น
-  จำนวนผู้ผ่านการคัดเลือกทั้ง 2 กลุ่ม ให้คัดเลือกไว้ไม่เกิน 2 เท่าของตำแหน่งว่างที่ ก.ค.ศ.กำหนด หรือเท่ากับจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60
-  หลักสูตรการคัดเลือก สอบภาค ก. ข. ค. แยกเป็น
-  - กลุ่มทั่วไป (กลุ่มสอบคัดเลือก) คะแนนเต็มรวม 400 คะแนน แยกเป็นภาค ก. 100 คะแนน ภาค ข. 100 คะแนน ภาค ค. 200 คะแนน
กลุ่มประสบการณ์ (กลุ่มคัดเลือก) คะแนนเต็มรวม 300 คะแนน แยกเป็นภาค ก. 100 คะแนน ภาค ข. 200 คะแนน
    • เห็นควรเทียบประสบการณ์การปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารการประถมศึกษา/มัธยมศึกษา ไว้ในหลักเกณฑ์ฯ ซึ่งการสอบครั้งนี้จะครอบคลุมถึงผู้ดำรงตำแหน่ง หรือเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ช่วยศึกษาธิการอำเภอ เป็นต้นไป รวมทั้งผู้บริหารสถานศึกษา อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือรวมกันมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยไม่ปิดกั้นการสอบข้ามเขตระหว่างผู้บริหารสายประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา
    • ความก้าวหน้ากรณีการใช้ตำแหน่งว่างที่เหลือจากการบรรจุและแต่งตั้งผู้ผ่านเกณฑ์การสรรหาให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา
    • ที่ประชุมพิจารณากรณีที่ ก.ค.ศ.เคยมีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2556 ซึ่งมีมติไม่อนุมัติให้ สพฐ. ประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านเกณฑ์การตัดสินร้อยละ 60 จำนวน 1,224 คน เป็นบัญชีผู้ผ่านการสรรหา เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด
      ที่ประชุมครั้งนี้ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรหารือข้อมูลให้รอบคอบรัดกุม จึงมอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.เชิญผู้แทนจาก สพฐ. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ. มาหารือร่วมกันโดยเร็ว ก่อนจะมีมติใดๆ ออกไป เพื่อให้เกิดความรอบคอบทางกฎหมายและในทางปฏิบัติ และให้นัดประชุม ก.ค.ศ. ครั้งต่อไปเร็วขึ้นเมื่อได้ข้อสรุป เพื่อที่จะได้แจ้งให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ทราบต่อไป
      • การเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติของ ก.ค.ศ. เรื่อง การมอบอำนาจในคดีปกครอง
      ที่ประชุมเห็นชอบการมอบอำนาจในคดีปกครอง โดยมอบอำนาจให้ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นผู้ลงลายมือชื่อแทน ก.ค.ศ. ในการดำเนินคดีและแก้ต่างคดีปกครองแทน และให้มีอำนาจพิจารณามอบอำนาจช่วง ให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการแทนได้
      • การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
      ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา ในส่วนของประสบการณ์การดำรงตำแหน่ง ดังนี้
      "ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ที่มีประสบการณ์การบริหารไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากลุ่มมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือดำรงตำแหน่งครู และมีประสบการณ์การบริหาร ไม่น้อยกว่า 2 ปี สำหรับผู้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ หรือไม่น้อยกว่า 1 ปี สำหรับผู้มีวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษขึ้นไป"

ไม่มีความคิดเห็น: